BBIK พุ่ง 4% เก็งแผนซินเนอร์จี้ ลุ้นผลงานปี 66 นิวไฮ 7 ปีติด
BBIK วิ่งแรง 4% ราคาแตะ 112.50 บ. เก็งแผนซินเนอร์จี้ ดันผลงานปี 66 นิวไฮ 7 ปีซ้อน พร้อมรับอานิสงส์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI โบรกแนะซื้อเป้า 150 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 มี.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ล่าสุด ณ เวลา 15:03 น. อยู่ที่ระดับ 112.50 บาท บวก 4.50 บาท หรือ 4.17% สูงสุดที่ระดับ 113.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 110.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 18.29 ล้านบาท
ทั้งนี้นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BBIK กล่าวว่า บริษัทจะมุ่งเน้นการทำ Synergy ระหว่างบริษัทแม่และบริษัทในเครือทั้งหมดในปี 66 เพื่อสร้างการเติบโตร่วมอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวตามแผน “Growth at Scale” ด้วยการยกระดับการให้บริการแบบครบวงจรที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งขนาดใหญ่และกลาง พร้อมลุยธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโต ตั้งเป้าขยายสัดส่วน Recurring Income โดยใช้จุดแข็งของแต่ละบริษัทเข้าไปสนับสนุนการให้บริการและการเติบโตทั้งในส่วนรายได้และกำไร เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจผ่าน Cross-Selling และ Up-Selling ระหว่างกัน
“หลังจากปลดล็อคปัญหาจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีไม่เพียงพอ โดยมีอัตรากำลังที่เพิ่มขึ้นจาก 350 เป็น 800 ชีวิตแล้ว การเข้าซื้อกิจการของ VDD และ Innoviz ยังสร้างการเติบโตแบบ Inorganic growth ให้กับบลูบิคเป็นปีแรกด้วย ดังนั้นการเติบโตของผลประกอบการนับจากนี้ของบริษัทฯ จะเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ สามารถรองรับการขยายบริการทั้งในและต่างประเทศ และบรรลุเป้าหมายการได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี SET 100 ตามแผนที่วางไว้” นายพชร กล่าว
โดยในปี 66 จะเป็นปีแรกที่บริษัทสามารถเติบโตแบบ Inorganic Growth หลังปิดดีลควบรวมกิจการบริษัท วัลแคน ดิจิทัล เดลิเวอรี่ จำกัด (VDD) และบริษัท อินโนวิซ โซลูชั่นส์ จำกัด (Innoviz) เสร็จสิ้น ทำให้สามารถบันทึกรายได้และกำไรของทั้งสองบริษัทได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/66 อีกทั้งกลุ่มบริษัทยังได้รับอานิสงส์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI อีกด้วย ทำให้บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการปี 66 จะโตได้ถึง 120% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 100% ซึ่งจะเป็นการทำ New high ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อนต่อจากปี 2565 ที่ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทฯ โตทุบสถิติต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ถึง 70% ต่อปี ถือเป็นการเติบโตในอัตราที่สูงและเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ
สำหรับการขยายตัวแบบ 360 องศาทั้งตลาดในและต่างประเทศ อีกทั้งการผนึกกำลังยังช่วยเสริมแกร่งให้กับกลุ่มบริการหลักรองรับความต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่ยังเติบโตแรง สะท้อนผ่านมูลค่าแบ็คล็อกของบลูบิคและบริษัทในเครือ ณ วันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่สูงถึง 979 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น บลูบิคจำนวน 454 ล้านบาท บริษัทร่วมค้า (JV) 157 ล้านบาท และ VDD และ Innoviz 368 ล้านบาท (โดยมูลค่าแบ็คล็อกของ VDD และ Innoviz ที่บันทึกเป็นรายได้เข้าบริษัทแม่ จะเป็นมูลค่าแบ็คล็อกคงเหลือ ณ วันที่ปิดดีลเสร็จสมบูรณ์ในเดือนก.พ. ที่ผ่านมา)
ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ มีมุมมองบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์ ที่ปีนี้เป้าหมายหลักจะโฟกัสไปที่การปรับปรุง สร้าง synergy และดึงศักยภาพจากบริษัท Innoviz, Vulcan ออกมา และบริษัทมีแผนที่ชัดเจน โดยประมาณการกำไรปี 66 ที่ 222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบจากปีก่อน ยังมี upside risk อีกอย่างน้อย 38 ล้านบาท หรือราว 17% จาก 2 ดีลที่เสร็จสิ้นแล้วใน ก.พ.66 (Innoviz, Vulcan) ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ
โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมาย 150 บาท จากภาพอุตสาหกรรมที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างขัดเจน และการเติบโตของบริษัทที่โดดเด่นมาก ตามความต้องการทำ Digital transformation และศักยภาพที่เพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะหลังดีลที่พนักงานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเป็น 800 คน นอกจากนี้บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.40 บาท/หุ้น (dividend yield 0.3%, XD 9 พ.ค. จ่าย 24 พ.ค. 66)