TSR บวก 2 วันติด! พุ่งอีก 10% วางเป้าปีนี้รายได้ 4 พันล้าน ลุยขยายฐานลูกค้าใหม่
TSR บวก 2 วันติด! พุ่งอีก 10% วางเป้าปีนี้รายได้ 4 พันล้าน ลุยขยายฐานลูกค้าใหม่-กลุ่ม CLMV หนุนธุรกิจโตเข้าเป้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 มี.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR ล่าสุด ณ เวลา 15:45 น. อยู่ที่ระดับ 4.06 บาท บวก 0.38 บาท หรือ 10.33% สูงสุดที่ระดับ 4.12 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.70 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 63.14 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายวรานนท์ คงปฏิมากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565) ของกลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 71.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.98 ล้านบาท หรือคิดเป็น 132.16% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 31.01 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.83% ในปี 2564 เป็น 5.19% ในปี 2565 ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 1,386.73 ล้านบาท
แม้ว่ารายได้จากการขายเครื่องกรองน้ำลดลง แต่รายได้จากการขายไส้กรองรวมถึงกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกและสินเชื่อ Floor Plan เพิ่มขึ้น ประกอบกับกลุ่มบริษัทฯ สามารถบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้ลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการบริหารหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการเข้ามาร่วมบริหารของกลุ่ม SABUY บริษัทจะสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างก้าวกระโดดไปกับ Ecosystem ของกลุ่ม SABUY
พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นและเงินสด จากผลการดำเนินงานงวดปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัท จํานวนไม่เกิน 54,941,713 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตรา 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล พร้อมทั้งจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0111 บาท คิดเป็นจํานวนเงินรวมทั้งสิ้น 61.05 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 8 พ.ค.66 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 19 พ.ค.66
พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัทยังได้มีมติให้เสนอเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อย่อเป็น “SBNEXT” เพื่อความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับกลุ่ม SABUY ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายและให้บริการกับผู้บริโภคโดยตรง
“แม้ว่าบริษัทฯ จะได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการจัดโครงสร้างทีมขาย และช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการใช้ SABUY Ecosystem ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และการ cross-sell ระหว่างบริษัทต่างๆ ในกลุ่มโดยมีเป้าหมายรายได้ในปี 2566 ที่ 4,000 ล้านบาท
อีกทั้งยังได้มีการบริหารจัดการต้นทุน ค่าใช้จ่าย ตามกลุ่มธุรกิจ โดยยึดในสมรรถภาพหลักของกลุ่มบริษัทฯ ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ความเป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบน้ำ การจัดการน้ำ การเป็นผู้ผลิตเครื่องกรองน้ำที่ได้มาตรฐาน การมีเครือข่ายในการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย” นายวรานนท์กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ ได้วางแผนขยายฐานลูกค้ารายใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยจะทำการตลาดผ่านช่องทาง Direct Sales กว่า 300 ทีม หรือกว่า 1,500 คนทั่วประเทศ รวมถึงช่องทาง Online to Offline (O2O), แพลตฟอร์มบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น E-Marketplace ทั้ง Shopeeและ Lazada รวมถึงช่องทางอื่น ๆ อาทิ โมเดิร์นเทรดและ Dealer กว่า 200 สโตร์ และขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจต่อไปได้ในระยะยาว
โดยในปีนี้กลุ่มบริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายไส้กรองมากกว่า 50% และมุ่งมั่นพัฒนาสร้างสินค้าที่ใช้นวัตกรรม IOT ในกลุ่ม Water Solution & Lifestyle เพื่อสร้างแบรนด์เครื่องกรองน้ำ “SAFE” ให้เป็น Top of Mind Brand และสร้าง Financial Service package ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น