6 หุ้นพลังงานวิ่ง! รับ WTI ดีดเหนือ 70 เหรียญ หลัง “อิรัก” ระงับส่งออกน้ำมัน
6 หุ้นพลังงานวิ่ง! รับราคาน้ำมันดิบ “เวสต์เทกซัส-เบรนต์” ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังอิรักระงับการส่งออกน้ำมันดิบบางส่วนจากแคว้นกึ่งปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน โดยอ้างว่าต้องผ่านการยินยอมจากอิรักเสียก่อน ส่งผลให้ตุรกีปิดท่อลำเลียงน้ำมันดิบแห่งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (28 มี.ค.66) สำหรับหุ้นพลังงานที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รับราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส-เบรนต์ปรับตัวขึ้น ณ เวลา 10:08 น. นำโดยหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP อยู่ที่ระดับ 148 บาท บวก 4.00 บาท หรือ 2.78% สูงสุดที่ระดับ 148.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 148 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 180.95 ล้านบาท
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.68 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.08% สูงสุดที่ระดับ 2.68 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.62 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50.71 ล้านบาท
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 53.25 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 2.40% สูงสุดที่ระดับ 53.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 52.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103.93 ล้านบาท
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 31.50 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.80% สูงสุดที่ระดับ 31.75บาท ต่ำสุดที่ระดับ 31.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 131.42 ล้านบาท
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 49.75 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.08% สูงสุดที่ระดับ 47 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 46.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80.68 ล้านบาท
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 21.10 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 0.48% สูงสุดที่ระดับ 21.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 21 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172.07 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้นพลังงานดีดกลับขึ้นมา รับข่าวเชิงบวกจากหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังอิรักระงับการส่งออกน้ำมันดิบบางส่วนจากแคว้นกึ่งปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน โดยอ้างว่าต้องผ่านการยินยอมจากอิรักเสียก่อน ส่งผลให้ตุรกีปิดท่อลำเลียงน้ำมันดิบแห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกของท่อลำเลียงแห่งนี้คิดเป็นสัดส่วนราว 0.5% ของอุปทานน้ำมันโลก หรือประมาณ 450,000 บาร์เรลต่อวัน โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อวันที่ 27 มี.ค.66 อยู่ที่ 72.81 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.55 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 78.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.13 เหรียญสหรัฐ
ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลง ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐมีราคาถูกลง และน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ด้านรัสเซียมีแผนติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในเบลารุส สร้างความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ให้รุนแรงขึ้น รวมถึงรัสเซียเตรียมปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบโลกตึงตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 3 เม.ย.66 ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนแผนการผลิตหรือไม่
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการณ์ว่าจีนจะเพิ่มการส่งออกน้ำมันเบนซินสู่ภูมิภาคมากขึ้น อย่างไรก็ดี อุปสงค์ยังคงได้รับการสนับสนุนจากการขับขี่ในสหรัฐ
นอกจากนี้ยังมีราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นในเกาหลีใต้ อย่างไรก็ดี น้ำมันดีเซลในยุโรปยังคงตึงตัวจากการประท้วงในฝรั่งเศส