SUPER ปิดเช้าเด้ง 7% ลั่นปีนี้รายได้ทะลุ 1.03 หมื่นล้าน หลังทยอย COD โครงการใหม่เพิ่ม
SUPER ปิดเช้าเด้ง 7% ลั่นปีนี้รายได้ทะลุ 1.03 หมื่นล้านาท หลังทยอย COD โครงการใหม่เพิ่มเป็น 1,652 เมกะวัตต์ พร้อมเร่งปิดดีลขายหุ้น Solar NT สัดส่วน 49% ให้ ACEV ภายในกลางปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 มี.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ปิดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 0.62 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 6.90% สูงสุดที่ระดับ 0.63 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.58 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 60.72 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SUPER เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปี (ปี 2566-2568) บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 10,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 9,571.41 ล้านบาท จากนั้นในปี 2567 คาดจะมีรายได้ 12,022 ล้านบาท และปี 2568 รายได้จะเพิ่มเป็น 13,062 ล้านบาท
ทั้งนี้การเติบโตของรายได้มาจากโครงการที่จะทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) เข้ามา ทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) และพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ในประเทศไทยและเวียดนาม ได้แก่ โครงการ Soc Trang กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ (MW), โครงการ Bac Lieu จำนวน 70 เมกะวัตต์, โครงการโซลาร์รูฟท็อป เพื่อขายไฟฟ้าให้กับมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 15 เมกะวัตต์, Enserv Private จำนวน 11 เมกะวัตต์ และ Private PPA จำนวน 50 เมกะวัตต์ รวมทั้งโครงการ SPP HYBRID จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ จะช่วยสนับสนุนการสร้างรายได้ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์เพิ่ม ซึ่งบริษัทจะมีกำลังการผลิตที่ COD เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1,592 เมกะวัตต์ เป็น 1,652 เมกะวัตต์ภายในปีนี้ ตามแผนขยายการลงทุนรองรับการเติบโตในช่วง 3 ปี (ปี 2566-2568) ภายใต้วงเงินลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีโครงการลงทุนใหม่ที่คาดว่าจะทยอยเข้ามา โดยล่าสุดอยู่ระหว่างรอผลการประมูลภายใต้โครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน แบบ FiT พ.ศ. 2565-2573 ระยะแรก จำนวน 5,203 เมกะวัตต์ เป็นโครงการ โซลาร์ฯ พ่วงแบตเตอรี่ ยื่นไป 19 โครงการ และโครงการขยะอุตสาหกรรม จำนวน 3 โครงการ จะทราบผลในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมยื่นร่วมประมูลพลังงานหมุนเวียน ระยะที่สอง ที่ภาครัฐจะเปิดรับซื้อเพิ่มอีก 3,668.5 เมกะวัตต์ด้วย ส่วนการขยายลงทุนในประเทศเวียดนามนั้น ยังรอแผน PDP8 และอัตราค่าไฟใหม่ก่อน
สำหรับความคืบหน้าดีลขายหุ้น 49% ของ SOLAR NT HOLDINGS PTE. LTD. (Solar NT) ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามให้กับ AC ENERGY VIETNAM INVESTMENTS PTE. LTD. (ACEV) บริษัทลงทุนชั้นนำทางด้านธุรกิจพลังงานทดแทนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ได้ ซึ่งปัจจุบันโครงการดังกล่าวมีทั้งสิ้น 9 โครงการ คาดว่า 6 โครงการแรกน่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนอีก 3 โครงการน่าจะปิดดีลภายในไตรมาส 3/2566 ดังนั้นรายได้จะเข้ามาภายในปีนี้ทั้งหมด คาดจะรับรู้รายได้เข้ามาประมาณ 5,490 ล้านบาท โดยจะนำเงินมาชำระหนี้ และใช้สำหรับขยายโครงการลงทุนใหม่
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างรายได้ในอนาคตบริษัทจะมีรายได้ประจำจากการขายไฟฟ้าประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปีที่มีความมั่นคง แต่บริษัทจะยังคงเพิ่มโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยจะขยายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (SUPEREIF) 100 เมกะวัตต์ต่อปี หรือการจัดตั้งกองใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาได้หารือกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด แล้ว เพื่อให้บริษัทมีรายได้และกำไรพิเศษเข้ามา