ดอลล์อ่อนค่าหนุนราคาน้ำมันดิบปิดบวก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร อันเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนผิดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเมื่อวานนี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.9%, ปิด (3 ธ.ค.) ที่ 41.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 43.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจาก ECB ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB สู่ระดับ -0.3% จากเดิมที่ -0.2% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และประกาศขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปจนถึงเดือนมี.ค.2560 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนก.ย.2559
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่ามาตรการดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งได้ โดยก่อนหน้านี้ตลาดคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ECB จะเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่าที่ได้ประกาศเมื่อวานนี้
นักลงทุนจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ในวันนี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ขณะที่มีกระแสคาดการว่า โอเปกจะคงโควต้าการผลิตน้ำมันไว้เท่าเดิมที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน ทั้งนี้ กลุ่มโอเปก ซึ่งผลิตน้ำมันดิบได้ในสัดส่วน 40% ของผลผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกนั้น ได้คงโควต้าการผลิตเอาไว้ที่ระดับดังกล่าวมาเป็นเวลานาน แม้ว่าประเทศสมาชิกรายอื่นๆ รวมถึงอัลจีเรียและเวเนซูเอลา ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการปรับลดการผลิตเพื่อหนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้นก็ตาม
ด้านซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่สุดของกลุ่มโอเปกและเป็นแกนนำในกลุ่มโอเปกที่ออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้องให้มีการปรับลดการผลิตนั้น ได้ออกมายืนยันว่า ซาอุดิอาระเบียพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก เพื่อสร้างเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก