6 หุ้นไฟแนนซ์วิ่ง! อานิสงส์ระดมหาเสียงกระตุ้นรากหญ้า หวัง NPL ลด-เก็งดอกเบี้ยใกล้พีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(10 เม.ย.66) ราคาหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า รับ Sentiment เชิงบวกแนวโน้มดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว และนโยบายหาเสียงของพรคคการเมืองต่างๆ มุ่งเน้นการช่วยกระตุ้นรายได้ประชาชนระดับรากหญ้า

นำโดยบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน หรือ TIDLOR ณ เวลา 15:21 น. อยู่ที่ระดับ 27.00 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 6.93% ราคาสูงสุด 27.00 บาท ราคาต่ำสุด 25.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 476.82 ล้านบาท

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ณ เวลา 15:24 น. อยู่ที่ระดับ 55.50 บาท บวก 2.25 บาท หรือ 4.23% ราคาสูงสุด 55.50 บาท ราคาต่ำสุด 53.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 570.27 ล้านบาท

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ณ เวลา 15:24 น. อยู่ที่ระดับ 35.25 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 3.68% ราคาสูงสุด 35.50 บาท ราคาต่ำสุด 33.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 327.05 ล้านบาท

บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ณ เวลา 15:26 น. อยู่ที่ระดับ 6.30 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.28% ราคาสูงสุด 6.35 บาท ราคาต่ำสุด 6.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 16.38 ล้านบาท

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ณ เวลา 15:29 น. อยู่ที่ระดับ 2.72 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 2.26% ราคาสูงสุด 2.74 บาท ราคาต่ำสุด 2.64 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 18.55 ล้านบาท

บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG ณ เวลา 15:28 น. อยู่ที่ระดับ 43.50 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.75% ราคาสูงสุด 44.25 บาท ราคาต่ำสุด 42.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 182.63 ล้านบาท

ด้านนายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ราคาหุ้นกลุ่ม Non-Bank ที่ปรับตัวขึ้น คาดได้รับ Sentiment เชิงบวกจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว

ขณะที่บล.กสิกรไทย คาดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือน พ.ค.นี้ น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 2% เป็นครั้งสุดท้าย และหลังจากนั้นก็จะหยุดขึ้นดอกเบี้ย และคงดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลดีต่อต้นทุนของหุ้นกลุ่มนี้ เนื่องจากมีต้นทุนหลักมาจากการกู้ยืม

นอกจากนั้น ยังได้ปัจจัยหนุนจากนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ที่เข้ามากระตุ้นรายได้ของประชาชน โดยเฉพาะระดับรากหญ้า ทำให้ลดความกังวลในเรื่องของ NPL ลงไปได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นมาของราคาหุ้นยังเป็นเพียง Sentiment เชิงบวกในระยะสั้น เนื่องจากปัญหา NPL ยังมีอยู่ และการตั้งสำรองที่สูงจากฐานลูกหนี้ที่มีรายได้ปานกลาง-ต่ำฟื้นตัวได้ช้า

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(10 เม.ย.66) สำหรับหรับปัจจัยในประเทศยังคงคาดปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยจะยังคงเบาบางต่อไปจากการคาบเกี่ยววันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในระยะสั้นแต่มองจะเป็นปัจจัยช่วยให้เศรษฐกิจไทยที่เงินหมุนเวียนมากขึ้นจากการที่หลายภาคส่วนกลับมาจัดงานเทศกาลสงกรานต์อีกครั้งในปีนี้

ขณะที่เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ของไทยที่ออกมาเพียง 2.83% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.27% เทียบเดือนก่อนหน้า ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 3.25% และ 0.14% เทียบเดือนก่อนหน้า บ่งชี้เงินเฟ้อของไทยผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องพยายามปรับตัวลงเริ่มเข้าใกล้กรอบเป้าหมายของ ธปท. ที่ระดับ 2.00%

โดยมองเป็นปัจจัยสะท้อนความสามารถในการควบคุมเงินเฟ้อของไทย รวมทั้งยังลดทอนแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ ธปท. ในระยะถัดไป ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินในประเทศไม่ได้เร่งตัวขึ้นแรง เป็นปัจจัยหนุนทิศทางเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ และจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนแรงเก็งกำไรต่อหุ้นในกลุ่มการเงิน (MTC, SAWAD, TIDLOR และ KTC)