PROUD พุ่งกระฉูด 17% ลั่นปีนี้รายได้แตะ 2.5 พันล้าน ล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง Q1 นี้

PROUD พุ่งกระฉูด 17% ลั่นปีนี้รายได้แตะ 2.5 พันล้าน ล้างขาดทุนสะสมหมดไตรมาส 1/66 นี้ พร้อมลุยเปิด 2 โครงการ มูลค่ารวม 4,657 ล้านบาท คาดยอดขายปีนี้ 3,300 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 เม.ย.66) ราคาหุ้น บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD ณ เวลา 14:40 น. อยู่ที่ระดับ 2.04 บาท บวก 0.29 บาท หรือ 16.67% สูงสุดที่ระดับ 2.04 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.78 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51.34 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้ นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร PROUD เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 2,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน โดยจะมาจากการโอนกรรมสิทธ์ 2 โครงการหลัก คือ โครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน ซึ่งคาดว่าภายในครึ่งปีแรกของปีนี้จะโอนกรรมสิทธิ์ได้ทั้งหมดอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท และโครงการวี อารีย์ (Vi Ari) เป็นบ้านเดี่ยวใจกลางอารีย์ มูลค่าโครงการรวม 507 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเปิดขายภายในปี 2566 และจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวมเกือบ 3,000 ล้านบาท โดยหลัก ๆ จะเป็นยอดขายจากโครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน จะทยอยรับรู้ในปี 2566 กว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป โดยบริษัทคาดว่าภายในไตรมาส 1/2566 จะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมด ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 90 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทวางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ในปี 2566 ไว้ที่ 3,300 ล้านบาท โดยจะมาจากการขายโครงการเวหา (Vehha Hua Hin) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ มูลค่าโครงการรวม 2,290 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างยอดขายในปี  2566ประมาณ 800 ล้านบาท, โครงการวี อารีย์ บ้านเดี่ยวใจกลางอารีย์ มูลค่าโครงการรวม 507 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2566 และจะมาจากโครงการ รมย์ คอนแวนต์ (ROMM Convent) ประมาณ 2,000 ล้านบาท

โดยในปี 2566 บริษัทมีแผนเปิดตัวอย่างน้อย 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,657 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการวี อารีย์ บ้านเดี่ยวใจกลางอารีย์ มูลค่าโครงการรวม 507 ล้านบาท และ 2.โครงการ รมย์ คอนแวนต์ มูลค่าโครงการ 4,150 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายในช่วงวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งวางเป้าหมายยอดขายในช่วง 2 วันเปิดขายไว้ที่ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าแสดงความสนใจซื้อแล้วจำนวนมาก

นอกจากนี้ บริษัทยังคงมองหาที่ดินใหม่ ๆ ต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยในปี 2566 บริษัทวางงบลงทุนสำหรับซื้อที่ดินไว้ที่ 1,600 ล้านบาท คาดว่าจะได้ที่ดินอย่างน้อย 2 แปลง เพื่อพัฒนาโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม ทั้งทำเลในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งบริษัทจะมองที่ดินในจังหวัดที่มีศักยภาพ เช่น จังหวัดที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการที่อยู่อาศัยจริง

Back to top button