ปลัดคลังเผย ECB ลดดอกเบี้ยฝากไม่กระทบไทย ชี้ตลาดให้น้ำหนัก FED มากกว่า
ปลัดคลังเผย ECB ลดดอกเบี้ยฝากไม่กระทบไทย ชี้ตลาดให้น้ำหนัก FED มากกว่า
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีธนาคารกลางยุโรป(ECB) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงว่า คงไม่มีผลกระทบกับเศรษฐกิจไทย และไม่ทำให้เกิดภาวะเงินทุนไหลออกจากไทยด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มองว่าการที่ ECB ลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่า
ส่วนกรณีที่ ECB ไม่มีการเพิ่มมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) นายสมชัย กล่าวว่า การเพิ่มปริมาณอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แต่น่าจะดูที่การเพิ่มคุณภาพของ QE มากกว่า ซึ่งมองว่าการเพิ่มคุณภาพ QE จะเป็นช่องทางให้เศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ ในทางกลับกัน ตลาดน่าจะจับตามเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มากกว่าเพราะมีผลต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่า เพราะหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่พร้อมแต่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐเองได้
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยขณะนี้ มองว่า เศรษฐกิจไทยปี 59 จะขยายตัวได้ตามคาดการณ์ที่ 3.8% เนื่องจาก 4 เครื่องยนต์หลักที่จะกลับมาทำงานได้ดีขึ้น ทั้งภาคส่งออกที่ปีหน้าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น อำนาจซื้อของคู่ค้าจะขยายตัวเป็นผลดีต่อส่งออกของไทย, การเร่งการลงทุนของภาครัฐ, การกระตุ้นการบริโภคของภาคประชาชน และ การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชน
“เครื่องยนต์หลักที่เป็นตัวขับเคลื่อนตอนนี้ยังเป็นภาครัฐ ไม่ใช่ภาคเอกชน ดังนั้นขณะนี้ภาครัฐต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ในภาคต่างๆให้กลับคืนโดยเร็วที่สุด โดยมั่นใจว่าในเดือนพ.ย.-ธ.ค. ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นต่างๆจะปรับดีขึ้นต่อเนื่องเป็นผลจากมาตรการรัฐที่ได้ออกมาในช่วงก่อนหน้านี้”
โดยหลังจากนี้ประเทศไทยจะเน้นการปฏิรูปมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยในเดือนธ.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีให้รมว.คลังและคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ในปีหน้า และจากนั้นต้องมีการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ การปฏิรูปการคลังท้องถิ่น การปฏิรูปสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ รวมทั้งการปฏิรูประบบประกันภัยของประเทศให้มีศักยภาพมากขึ้น