ศปมผ. ยันเดินหน้าแก้ปัญหาประมงไทยตามหลักสากล ไม่หวั่น EU ประเมิน
ศปมผ. ยันเดินหน้าแก้ปัญหาประมงไทยตามหลักสากล ไม่หวั่น EU ประเมิน
พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ รองเสนาธิการทหารเรือ เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฏหมายของศูนย์บัญชาการแก้ไขบัญหาการทำประมงผิดกฏหมาย (ศปมผ.) ว่า ในช่วงเดือน พ.ย.2558-เม.ย.2559 ศปมผ. มีแผนการดำเนินการโดยมีการนำกฏหมายและแผนที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีมาปฏิบัติและบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัดและเตรียมเปลี่ยนผ่านให้หน่วยงานรับผิดชอบหลัก อาทิ กรมประมง กรมเจ้าท่า ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) มีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฏหมายภายหลัง ศปมผ. ยุติการปฏิบัติการ
ที่ผ่านมา ศปมผ.ได้แก้ปัญหาการทำประมง IUU ให้ประมงไทยยั่งยืน โดยบูรณาการร่วมกับกรมประมง กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้วยการสร้างกติกาที่มีประสิทธิภาพ อาทิ การตรา พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 แผนการบริหารจัดการประมงทะเลไทย การแก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนของทะเบียนเรือและใบอนุญาตทำการประมง เพิกถอนเรือประมงผิดกฏหมายจำนวน 8024 ลำ และการช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับผลกระทบโดยคณะรัฐมนตรีอนุมติเงินช่วยเหลือชาวประมงจำนวน 228 ล้านบาท
อีกทั้ง ศปมผ.ยังพิจารณาให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างสมดุลยั่งยืน โดยควบคุมจำนวนเครื่องมือทำการประมงที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศเชื่อมั่นว่าปลาที่จับและกระบวนการผลิตเป็นไปอย่างถูกต้อง รวมทั้งการการจัดแรงงานภาคประมงให้มีประสิทธิภาพ เปิดโอกาสให้มีการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวด้วยการบูรณาการฐานข้อมูล
พล.ร.ท.จุมพล กล่าวว่า หลังจากนี้ ทางสหภาพยุโรป (EU) จะประเมินไทยให้ใบเหลือหรือใบแดง ถือว่าไม่มีความสำคัญมากนัก เนื่องจากว่า ศปมผ. ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมีการทำประมงให้เกิดมาตรฐานและเป็นไปตามหลักสากล ทั้งการฟื้นคืนทะเลไทย จำกัดอุปกรณ์จับสัตว์น้ำ รักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งจะต้องเกิดการผลักดันและทำอย่างต่อเนื่อง