SIAM ตั้งเป้าปี 59 ทำกำไร คาดรายได้โตพุ่งเป็น 2.6 พันลบ.ธุรกิจใหม่หนุน
SIAM ตั้งเป้าปี 59 ทำกำไร คาดรายได้โตพุ่งเป็น 2.6 พันลบ.ธุรกิจใหม่หนุน
นายสุรพล คุณานันทกุล รองผู้อำนวยการ บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ SIAM เปิดเผยว่า ในปี 59 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 2,600 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายเฟอร์นิเจอร์ อาคารสำเร็จรูปอเนกประสงค์ และผนังกั้นน้ำในประเทศ ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเติบโตจากปีนี้ทำรายได้ราว 1,200-1,300 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีงานในมือแล้ว 200-300 ล้านบาทที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 59
นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ คือ ห้องน้ำสำเร็จรูป โดยขณะนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 2 ราย ได้แก่ ไซมิส และ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) สนใจนำห้องน้ำสำเร็จรูปของบริษัทไปติดตั้งในโครงการคอนโดมิเนียม จำนวนรวม 3,000 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 180 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/59 จนถึงสิ้นปี 59
นายสุรพล กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ามีรายได้จากห้องน้ำสำเร็จรูปปีละ 200-300 ล้านบาท และยังมีรายได้อื่น ๆ เช่น การผลิตเฟอร์นิเจอร์เฉพาะให้กับโรงพยาบาล เป็นต้น ส่วนผนังกั้นน้ำนั้นส่วนใหญ่จะขายให้หน่วยงานราชการ เช่น กรมชลประทาน เป็นต้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ปี 59 สามารถทำกำไรสุทธิได้
ทั้งนี้ SIAM จะเริ่มใช้งวดบัญชีใหม่ตามปีปฏิทินตั้งแต่ เดือน ม.ค.-ธ.ค.59 จากเดิมงวดปีเริ่มเดือน ก.ค.-มิ.ย. โดยในงวด 1 ปีที่ผ่านมา สิ้นสุดเดือน มิ.ย.58 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 59 ล้านบาท ขณะที่ในงวดไตรมาส 1 (ก.ค.-ก.ย.58) มีกำไรสุทธิแล้ว 42 ล้านบาท และแนวโน้มไตรมาส 2 (ต.ค.-ธ.ค.58) ก็ยังเป็นทิศทางที่ดีอยู่จากที่มีงานโครงการเข้ามา และงานราชการที่ชะลอไปก็กลับมาดีแล้ว
นายสุรพล กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีช่องทางจำหน่าย 3 ช่องทาง คือขายผ่านดีลเลอร์ ขายงานโครงการราชการ และผ่านโมเดิร์นเทรด ภายใต้แบรนด์ลักกี้ คิงดอม โอกามูระ ไพลอท เป็นต้น มีสัดส่วนรายได้เป็นในประเทศ 90% และต่างประเทศ 10% ขณะที่เฟอร์นิเจอร์ในปีนี้จะเติบโต 10-15% จากงานโครงการของหน่วยราชการ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเข้าลงทุนด้านพลังงานทดแทนในประเทศญี่ปุ่น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบสถานะสินทรัพย์( Due diligence) โครงการโซลาร์ฟาร์ม 2 แห่งในญี่ปุ่น ระยะแรกจะลงทุน 20 เมกะวัตต์ จะพยายามสรุปให้ได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราวเมกะวัตต์ละ 120 ล้านบาท SIAM จะเข้าถือหุ้น 100% หากดำเนินการได้ก็จะเริ่มก่อสร้างในเดือน ก.พ.-มี.ค.59 ใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี คาดจะเริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้ปี 60