KTB เด้งแรง 5% ตอบรับกำไร Q1 ทะลุหมื่นล้าน โบรกเชียร์ “ซื้อ” ชูเป้า 23 บาท

KTB เด้งแรง 5% ตอบรับไตรมาส 1/66 กำไรทะลุหมื่นล้านบาทดีกว่าโบรกและตลาดคาดไว้ รับอานิสงส์พอร์ตสินเชื่อโตแกร่ง ขณะที่ NPL ลดลง ฟากโบรกแนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 เม.ย. 66) ราคาหุ้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ล่าสุด ณ เวลา 10:01 น. อยู่ที่ระดับ 17.50 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 4.79% สูงสุดที่ระดับ 17.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 17.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 671.83 ล้านบาท

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (20 เม.ย. 66) ว่าผลประกอบการ KTB ออกมาดีตามคาดและตลาดคาดไว้ โดยกําไรสุทธิไตรมาส 1/66 รายงานอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวปีก่อน ดังนั้นกำไรในไตรมาส 1/2566 คิดเป็น 24% ของประมาณการกําไรปี 2566

สำหรับกําไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวปีก่อน สาเหตุหลักมาจาก NIM ที่เพิ่มขึ้นถึง 56% จาก 2.44% ในไตรมาส 1/2565 เป็น 3.00% ในไตรมาส 1/2566 เนื่องจากมีการขึ้นดอกเบี้ย M-rate ต่อเนื่องตาม ธปท. ที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากระดับที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 0.50% ในไตรมาส 3/2565 มาเป็น 1.75% ในไตรมาส 1/2566 นอกจาก NIM ที่เพิ่มขึ้นแล้ว กําไรที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนยังเป็นเพราะ OPEX ลดลงหลังจากที่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายด้านการตลาดไว้สูงในไตรมาส 4 ด้วยซึ่งอานิสงส์จาก non-NII ที่สูงและ OPEX ที่ลดลงช่วยชดเชยผลกระทบจาก ECL ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 1/2566

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าสัดส่วน NPL จะลดลง แต่ KTB มีการตั้งสํารองหนี้เสียเพิ่มขึ้น 8.1 พันล้านบาทในไตรมาส 1/2566 (เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน, และเพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน เพราะผู้บริหารดําเนินกลยุทธ์แบบระมัดระวังตามความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงและเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม non-NII ของ KTB ในไตรมาส 1/2566 รายงานเข้ามาแข็งแกร่งอยู่ที่ 9.6 พันล้านบาท ลดลง 4% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนมี MTM ในระดับสูง

ขณะเดียวกันด้าน OPEX ก็ลดลงจากไตรมาสก่อน ตามฤดูกาลหลังจากที่มีรายจ่ายในไตรมาส 4 สูงตาม อย่างไรก็ตาม สัดส่วน C/I มีการปรับตัวลดลงต่ำ 40% สะท้อนว่า KTB ได้อานิสงส์อย่างชัดเจนจากประหยัดต้นทุนจากประสิทธิภาพของ platform ดิจิทัล โดยสัดส่วน C/I ในไตรมาส 1/2566 อยู่ในระดับต่ำเพียง 38.7% จาก 41.2% ในไตรมาส 1/2565

นอกจากนี้ คาดว่ากําไรของ KTB จะเติบโตอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน เพราะได้อานิสงส์จาก NIM ที่เพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตาม คาดว่าโมเมนตัมการเติบโตของกําไรจากไตรมาสก่อนอาจไม่สูง โดยมองกําไรสุทธิน่าจะอยู่ที่เฉลี่ยประมาณไตรมาสละ 1.0 หมื่นล้านบาทในปีนี้เทียบกับราว 8 พันล้านบาทในปีที่แล้ว ผลดังกล่าวยังคงคําแนะนํา “ซื้อ” KTB ประเมินราคาเป้าหมายที่ 23 บาท อิงจาก PBV ที่ 0.8 เท่า

Back to top button