SISB บวก 2% ส่งซิกผลงาน Q1 โตเด่น นักเรียนใหม่ไหลเข้า 157 ราย
SISB บวก 2% ส่งซิกผลงานไตรมาส 1/66 โตเด่น นักเรียนใหม่ไหลเข้า 157 ราย แย้มไตรมาส 2/66 มีนักเรียนรอเข้าเรียนกว่า 100 ราย เตรียมเปิดบริการสาขาใหม่ “นนทบุรี-ระยอง” เร็วกว่าแผน ช่วง ส.ค.นี้ พร้อมกางแผนปี 66-69 ขยายโรงเรียนแตะ 8,000 ที่นั่ง และนักเรียนพุ่ง 5,000 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 เม.ย.66) ราคาหุ้นบริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ล่าสุด ณ เวลา 15:44 น. อยู่ที่ระดับ 31.50 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 2.44% สูงสุดที่ระดับ 31.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 59.62 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SISB เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 จะเติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2565 เนื่องจากมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงปัจจุบัน มีนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้น 157 ราย จากสิ้นปี 2565 มีนักเรียนรวม 3,114 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโรงเรียนนานาชาติของประเทศไทย
ขณะเดียวกันในไตรมาส 2/2566 บริษัทมีนักเรียนใหม่ที่กำลังรอเข้ารับการศึกษาอีกกว่า 100 ราย สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพในการศึกษา และหลักสูตรที่ได้มาตรฐานสูง ภายใต้ค่าการศึกษา (ค่าเทอม) ที่เริ่มต้นเพียงหลัก 400,000 บาท ต่ำสุดในตลาดโรงเรียนนานาชาติ นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากการขึ้นค่าเทอมเฉลี่ยปีละ 5% หลังโควิด-19 จบลง และยังได้ผลบวกจากทางการจีนปิดกั้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทำให้มีนักเรียนจีนย้ายเข้ามารับการศึกษาในประเทศไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีโรงเรียนในเครือรวม 6 แห่ง (รวมสาขาระยอง และนนทบุรีแล้ว) โดยการเปิดโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์แห่งใหม่ ได้แก่ สาขานนทบุรี และสาขาระยอง ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปีการศึกษาใหม่ของปี 2566 ช่วงเดือน ส.ค. 2566 (เทอม 1) เบื้องต้นสาขานนทบุรี ได้มีการเปิดใช้งานบ้างแล้ว และมีนักเรียนที่เริ่มเข้ามาทดลองเรียนแล้ว 60 ราย อย่างไรก็ดี ปีแรกคาดมีนักเรียนใหม่ทั้ง 2 แห่งไว้ที่ 300 ราย ปัจจุบันมีผู้สมัครแล้ว 220 ราย
สำหรับในปี 2566 ในเทอม 1 บริษัทยังเตรียมปรับค่าเทอมขึ้นอีกเฉลี่ย 3-5% คาดว่าจะรับรู้รายได้จากค่าเทอมใหม่ในไตรมาส 3/2566 ประมาณ 1 เดือน และรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2566 เต็มไตรมาส โดยจะช่วยหนุนรายได้รวมเติบโต 30% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้รวม 1,344 ล้านบาท ตามแผนงานที่วางไว้ และสิ้นปี 2566 จะมีนักเรียนในระบบรวม 3,700 ราย ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่มากกว่า 80% ยังคงเป็นนักเรียนชาวไทย สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ SISB ที่ต้องการมอบการศึกษาที่มีคุณภาพให้คนไทยในราคาที่เหมาะสม และยังคงเดินหน้าขยายโรงเรียนให้เข้าถึงประชาชนให้ได้มากที่สุดในอนาคต
ทั้งนี้ในปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ในแต่ละสาขาค่อนข้างแน่น และมีนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งสาขาประชาอุทิศ ธนบุรี สุวรรณภูมิ และเชียงใหม่ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2565 มีนักเรียนในระบบ 3,114 ราย คิดเป็น 83% ของความสามารถในการรองรับนักเรียน (Capacity) ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 4,675 ที่นั่ง ดังนั้นในอนาคตจึงมีแผนที่ขยาย Capacity เพิ่มขึ้น ทั้งในสาขาประชาอุทิศ ธนบุรี และเชียงใหม่
นายยิว ฮอค โคว กล่าวต่อว่า แผนการขยาย Capacity ในระยะ 5 ปี (ปี 2566-2569) มีดังนี้ โดยในปี 2566 จะมีการขยายเพิ่มขึ้น 2,000 ที่นั่ง ทำให้มี Capacity รวม 6,675 ที่นั่ง ส่วนในปี 2567-2568 เบื้องต้นมีแผนขยายเพิ่มอีก 1,325 ที่นั่ง จากสาขาประชาอุทิศ 200 ที่นั่ง สาขาเชียงใหม่ 220 ที่นั่ง และสาขาธนบุรี 700 ที่นั่ง เป็นต้น ทำให้มี Capacity รวม 7,350 ที่นั่งในปี 2567 และมี Capacity รวม 8,000 ที่นั่งภายในปี 2568-2569
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าภายในปี 2566 จะมีนักเรียนในระบบรวม 3,700 ราย ในปี 2567 จะมีนักเรียนในระบบ 4,200 ราย และในปี 2568 จะมีนักเรียนในระบบ 4,600 ราย และในปี 2569 จะมีนักเรียนในระบ 5,000 ราย คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย (CAGR) ที่ 12.6% ต่อปี ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้จากการดำเนินงานในปี 2565-2569 ที่มีรายได้รวมเติบโตเฉลี่ย 16.9% หรือแตะ 2,500 ล้านบาท ภายในปี 2569 จากปี 2565 ที่มีรายได้รวม 1,344 ล้านบาท
นอกจากนี้ในอนาคตบริษัทยังมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายภายในระยะ 10 ปี จะมีโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ เปิดให้บริการอยู่เกือบทุกจังหวัดของประเทศไทย ทำให้ประชาชนชาวไทยเข้าถึงการศึกษาที่ดี และมีหลักสูตรที่มีคุณภาพให้ครอบคลุม ด้วยค่าเทอมที่เหมาะสม รวมถึงโอกาสในการรับนักเรียนชาวต่างชาติที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น ล่าสุด จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดนครสวรรค์ ก็ได้มีการติดต่อให้ SISB ไปเปิดโรงเรียนในอนาคต และอยู่ระหว่างศึกษาอีกหลายจังหวัด