ลุ้นศาล รธน. เตรียมลงมติ 18 พ.ค. ปมเลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหาย

ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ขาด พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ 18 พ.ค.นี้ หลังถูกฝ่ายค้านยื่นตีความปมยื้อบังคับใช้กฎหมาย โดยอ้างเหตุผลความไม่พร้อมด้านงบประมาณ ไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไข รธน.


กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากมี ส.ส.จำนวน 99 คน ซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่า พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ตราขึ้นเพื่อขยายกำหนดเวลาการมีผลใช้บังคับของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ใน 4 มาตรา ออกไปเป็นการชั่วคราว จากเดิมที่ให้ใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 ก.พ.66 แต่ได้แก้ไขเป็นให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ได้มีการอ้างเหตุผลความไม่พร้อมด้านงบประมาณ การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ และขั้นตอนการปฏิบัติงานในการบังคับใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ ตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ  ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่ามีพยานเพียงพอที่จะวินิจฉัยจึงยุติการไต่สวนและจะแถลงด้วยวาจาและมีมติในวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เวลา 09:30 น.

สำหรับมาตราที่ได้ขยายเวลาการบังคับใช้ออกไป

มาตรา 22 การควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องขณะจับกุมและควบคุมจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนหรือปล่อยตัวบุคคลดังกล่าว

มาตรา 23 การควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบต้องบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว

มาตรา 24 การเข้าถึงข้อมูลของผู้ถูกควบคุมตัว

มาตรา 25 การไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว กรณีอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมาย ละเมิดต่อความเป็นส่วนตัว เกิดผลร้ายต่อบุคคล หรือเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนสอบสวน

Back to top button