DELTA วิ่ง 6% รับเทรดพาร์ 10 สต.วันแรก! โบรกแนะขึ้น “ขาย” ดักเก็บ 70 บาท

DELTA เทรดสนั่นวันนี้วิ่ง 6% หลังแตกพาร์ใหม่เหลือ 10 สตางค์วันนี้ บล.บัวหลวง ส่งซิก หากรีบาวด์แรงเป็นจังหวะขาย รอดักเก็บแถว 70 บาท มั่นใจเดลต้าไม่หลุด SET50 ปีนี้ รอลุ้นปีหน้าคงราคาเป้าหมาย 75 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 เม.ย. 66) ราคาหุ้น  บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ล่าสุด ณ เวลา 10:09 น. อยู่ที่ระดับ 79.25 บาท บวก 4.45 บาท หรือ 5.95% สูงสุดที่ระดับ 80.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 74.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 551.86 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้น DELTA เปิดเทรดวันนี้พาร์ใหม่เป็น 10 สตางค์ จากเดิม 1 บาท พบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นร้อนแรง ทั้งนี้ นายนภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) คาดว่า ราคาหุ้น DELTA หลังแตกพาร์ใหม่วันนี้ มีโอกาสรีบาวนด์ค่อนข้างสูง หลังจากวานนี้ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ซึ่งหากรีบาวนด์ สำหรับผู้ที่ถือหุ้นดังกล่าวอยู่ถือว่าเป็นจุดขายทำกำไร และให้ไปรอรับบริเวณราคา 70 บาทอีกครั้ง อย่างไรก็ตามราคาเป้าหมายยังคงแนะนำที่ราคา 75 บาท/หุ้น

ทั้งนี้ จากการศึกษาหุ้น 10 ตัว ที่มีการแตกพาร์ระหว่างปี 2559 ถึง 2565 พบว่า 6 ใน 10 ของหุ้นที่ศึกษา ปรับตัวลดลงภายในหนึ่งเดือนหลังจากมูลค่าที่ตราไว้ใหม่มีผล โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ย -9% มีเพียงแค่ 4 หุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้น โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ย 6% คาดราคาหุ้น DELTA อาจปรับตัวลงในลักษณะเดียวกัน

นอกจากนี้ ในเดือน เม.ย. DELTA ถูกจัดให้อยู่ในรายการมาตรการเฝ้าระวังตลาดระดับ 1 อีกครั้ง ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ถึง 21 เม.ย. หากมาตรการนี้ไม่สามารถควบคุมความร้อนแรงของหุ้นได้ อาจมีมาตรการเพิ่มเติมตามมา ด้วยเหตุนี้คาดการณ์ว่า DELTA อาจเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

นายนภนต์ กล่าวว่า หากไม่ได้เป็นหลักเกณฑ์พิเศษของตลาดหุ้น DELTA ก็ยังไม่หลุดจากการคำนวณดัชนี SET50 ในรอบครึ่งหลังปี 2566 การแตกพาร์อาจจะช่วยในเรื่องของ Value ได้บ้าง หากเทียบหุ้นในกลุ่มเดียวกัน ขณะนี้ก็ยังไม่มีหุ้นตัวไหนที่น่าสนใจ

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ว่า หลังจากเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์กับผู้บริหาร DELTA มีมุมมองออกมาในเชิงลบเล็กน้อย โดยมีการปรับลดประมาณการกำไรขั้นต้นของ DELTA ลง โดยในไตรมาส 1/2566 อัตรากำไรขั้นต้นถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้น, การตั้ง Provision ของ Inventory (วัตถุดิบบางส่วนยังไม่สามารถเอาไปผลิตได้ เนื่องจากต้องรอวัตถุดิบอื่นที่ยังขาด), ค่าเงินบาทที่แข็งค่า และต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น ในขณะที่ออเดอร์บางส่วนชะลอในด้านของอุปสงค์ลูกค้าเริ่มมาเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น (รักษาอัตรากำไร)

ทั้งนี้ มองว่ากลุ่ม EV ยังเติบโตได้ดี แต่ต้องบริหารด้านกำไรขั้นต้น เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูง และการขาดแคลนวัตถุดิบบางส่วน สำหรับกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาส 4/2565 และคาดทั้งปีเพิ่มขึ้น 50-60% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่กลุ่ม Data center คาดยังโตอยู่ แต่ลูกค้าเริ่มมีมุมมองเชิงอนุรักษนิยมมากขึ้น และไม่ได้รีบสั่งออเดอร์เหมือนช่วงก่อนหน้า โดยยังคงเป้ารายได้เติบโต 10-15%

โดยคาดจะฟื้นตัวในไตรมาส 2/2566 ระยะสั้นยังแข็งแรง มีลูกค้ากลุ่มใหม่ในกลุ่มเกม และสินค้าใหม่ในกลุ่ม Al & Machine Learning รวมถึงคาดว่าราคาวัตถุดิบจะปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม บริษัทปรับเป้าหมายกำไรขั้นต้นปี 2566 ลงจาก 23-24% เป็น 22-23% และรายได้ทั้งปียังคงเป้าเดิมที่ 15-20%

Back to top button