DAII รับปีนี้กำไรพลาดเป้า ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โตไม่ต่ำกว่า 15%
DAII รับปีนี้กำไรพลาดเป้า หลังธุรกิจขายวัสดุก่อสร้างหดตัว ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โตไม่ต่ำกว่า 15% วางงบลงทุนที่ 50 ลบ. เตรียมรุกตลาดเวียดนามในปี 61
นายธวัช มีประเสริฐสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ DAII เปิดเผยว่า ในส่วนของกำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20-25 ล้านบาท แต่ยังคงสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท เป็นผลมาจากธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในปีนี้หดตัวค่อนข้างมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว
โดยธุรกิจวัสดุก่อสร้างเป็นธุรกิจที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงอยู่ที่ 35% มากกว่าธุรกิจรับสร้างบ้านที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นราว 25-30% จึงส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ ซึ่งอัตรากำไรสุทธิในสิ้นปีนี้คาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 4% จากปีก่อนอยู่ที่ 5%
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 59 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีนี้คาดว่ามีรายได้ 400 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจวัสดุก่อสร้างเติบโต 10% และธุรกิจรับสร้างบ้านเติบโต 20-30% จากแผนขยายโชว์รูมรับสร้างบ้านเพิ่มอีก 3 แห่งในปีหน้า ได้แก่ โชว์รูมที่ระยอง จะเริ่มเปิดบริการในวันที่ 18 มี.ค.59 ตั้งเป้ารายได้ 50 ล้านบาท โชว์รูมที่เลียบทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทราเริ่มเปิดบริการ 20 เม.ย.59 ตั้งเป้ารายได้ 80 ล้านบาท และโชว์รูมที่เกษตร-นวมินทร์ เปิดให้บริการ 9 มิ.ย.59 ตั้งเป้ารายได้ 80 ล้านบาท ทั้ง 3 โชว์รูมใหม่ใช้งบลงทุนราว 35 ล้านบาท
โดยปัจจุบันบริษัทมีโชว์รูมในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 3 เซ็นทรัลบางนา และเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และอีก 1 แห่งเป็นโชว์รูมหลักที่สำนักงานใหญ่
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ในปีหน้าของบริษัทจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย โดยจะจากธุรกิจรับสร้างบ้าน 55% และสัดส่วนรายได้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างอยู่ที่ 45% จากปีนี้ที่สัดส่วนรายได้ธุรกิจรับสร้างบ้านอยู่ที่ 50% และสัดส่วนรายได้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างอยู่ที่ 50%
สำหรับแนวโน้มกำไรสุทธิในปี 59 คาดว่าจะสูงกว่าปีนี้ หลังจากกระจายรายได้มาในงานธุรกิจรับสร้างบ้านมากขึ้น โดยจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในปีหน้าจะมากกว่า 30% และอัตรากำไรสุทธิจะฟื้นตัวไปที่ 7% จากปีนี้อยู่ที่ 4% ส่วนงบลงทุนในปี 59 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 50 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้ก่อสร้างโรงงานผลิตโครงสร้างเหล็กนาโน 15 ล้านบาท และขยายโชว์รูมฯ
นอกจากนั้น บริษัทยังตั้งเป้าหมายในปี 61 จะเข้าไปรุกตลาดในเวียดนามอย่างเต็มตัว โดยจะนำทั้ง 2 ธุรกิจของบรัทเข้าไปทำตลาดในประเทศเวียดนาม ซึ่งจะมีการตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นในเวียดนาม ในเบื้องต้นคาดว่าใช้เงินลงทุนราว 20-30 ล้านบาท อีกทั้งหลังจากการรุกตลาดเวียดนามอย่างเต็มตัวแล้ว บริษัทอาจจะขยายไปสู่อินโดนีเซียและอินเดียด้วย