DOHOME บวก 4% แย้ม Q2 ยอดขายโต-บุ๊กพิเศษประกันน้ำท่วม 60 ล้านหนุน
DOHOME บวก 4% แย้ม Q2/66 ยอดขายโต-บุ๊กพิเศษประกันน้ำท่วม 60 ล้านหนุน ทุ่มงบ 3 พันล้าน เดินหน้าขยาย 3 สาขาใหม่ มั่นใจดันรายได้ปีนี้โตกว่าปีก่อน หลังยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 พ.ค. 66) ราคาหุ้น บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ณ เวลา 12:09 น. อยู่ที่ระดับ 14.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 3.57% สูงสุดที่ระดับ 14.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 14.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 129.81 ล้านบาท
โดยนายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา ประธานกรรมการบริหาร DOHOME เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 40 ปี (ปี 2526-2566) บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะที่จะพัฒนาและสร้างการเติบโตต่อไปอย่างต่อเนื่อง และนับตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ตั้งแต่ปี 2562-2565 สามารถทำรายได้เติบโตเฉลี่ยกว่า 75% และในปี 2566 รายได้จะยังเติบโตได้ดี พร้อมจัดแคมเปญพิเศษ “ดูโฮม ฉลองครบรอบ 40 ปี Better Together ครบ ถูก ดี ตลอดไป” โดยจัดเต็มโปรโมชั่นและกิจกรรมที่ดูโฮมทุกสาขาทั่วประเทศ
นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กรบริษัท DOHOME กล่าวเสริมว่า ทิศทางในไตรมาส 2/2566 ผลการดำเนินงานจะเติบโตดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 เนื่องจากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง และกำลังซื้อที่ฟื้นตัว บวกกับยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ปัจจุบันที่ติดลบน้อยลง และมองว่าภาพรวมทั้งไตรมาสนี้จะติดลบน้อยลงกว่าไตรมาส 1/2566 ตามการฟื้นตัวของยอดขาย
นอกจากนี้ในไตรมาส 2/2566 บริษัทจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากค่าประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิด (All Risk Insurance) ชดเชยความเสียหายน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2565 เข้ามาประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันประกันอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดความคุ้มครองค่าเสียหายเพิ่มเติม 1 ราย จากทั้งหมด 4 ราย (3 รายเรียบร้อยแล้ว) อีกทั้งในส่วนของธุรกิจปกติความสามารถในการทำกำไรจะดีขึ้น เนื่องจากสต๊อกสินค้าราคาสูงหมดลง และสต๊อกสินค้าล็อตใหม่ได้ราคาที่ถูกลง
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทมั่นใจจะกลับมาเติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากมีการทยอยเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง และการเบิกจ่ายของผู้รับเหมา หรือหน่วยงานรัฐจะกลับมาอีกครั้ง หลังการเลือกตั้ง บวกกับภาคการก่อสร้าง ทั้งลูกค้ารายย่อย และลูกค้าทั่วไป กำลังซื้อฟื้นตัวตามมาด้วย
นอกจากนี้ ในปี 2566 บริษัทวางงบลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท เตรียมเปิดสาขาใหม่ขนาดใหญ่ 3 สาขา ที่จังหวัดเชียงราย ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 2566 ใช้งบลงทุนสาขาละ 500 ล้านบาท และสต๊อกสินค้า 300 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 2566 มีสาขาขนาดใหญ่ให้บริการรวม 24 สาขา และยังเตรียมทยอยขยายสาขา Dohome Togo เพิ่ม 6 สาขา ใช้งบลงทุน 10 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 2566 มีสาขา Dohome Togo ให้บริการรวม 14 สาขา
ดังนั้นบริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2566 จะมีรายได้รวมเติบโตกว่าปี 2565 ที่มีรายได้รวม 31,530 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้เต็มปีจากสาขาใหม่ที่เปิดในปี 2565 จำนวน 5 สาขา และรับรู้รายได้จากสาขาใหม่เพิ่ม รวมถึงยอดขายสาขาเดิมจะยังเป็นบวกได้ในตัวเลขหลักเดียว พร้อมมุ่งเพิ่มสัดส่วนสินค้า House Brands ต่อเป็น 20% จากปัจจุบัน 18-19% ส่วนยอดขายออนไลน์ยังเติบโต 2 เท่าได้ทุกปี จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ 1% ด้วยรายการสินค้ามากกว่า 5,000 รายการ (SKUs)