ERW บวก 4% รับนักท่องเที่ยวแห่เข้าไทย-เก็ง Q2 โตต่อ โบรกแนะซื้ออัพเป้าใหม่ 5.80 บ.

ERW บวก 4% รับนักท่องเที่ยวจีนแห่เข้าไทย-เก็งไตรมาส 2/66 โตต่อ โบรกแนะซื้ออัพกำไรปี 66-67 พ่วงเป้าใหม่ 5.80 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(19 พ.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ณ เวลา 12:00 น. อยู่ที่ระดับ 4.38 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 4.29% ราคาสูงสุด 4.38 บาท ราคาต่ำสุด 4.18 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 60.29 ล้านบาท

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(19 พ.ค.66) ว่า การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทยยังมีโมเมนตัมบวกบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน ต.ค. 65-เม.ย. 66 มีเที่ยวบินระหว่างประเทศไทย-จีน รวม 12,805 เที่ยวบิน เป็นการเร่งขึ้นต่อเนื่องจาก 1.0 พันเที่ยวบินใน ม.ค.66 สู่ 4.24 พันเที่ยวบินใน เม.ย. 66 และคาดเพิ่มเป็น 5.3 ใน พ.ค. 66 และ 6.0 พันเที่ยวบิน มิ.ย.66 ก่อนเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 7.3 พันเที่ยวบินในไตรมาส 3/66 และเร่งขึ้นเป็น 1.5 หมื่นเที่ยวบินในไตรมาส 4/66 (สูงกว่า ม.ค. 62 ช่วง COVID ที่มีเที่ยวบินจากจีน 1.2 หมื่นเที่ยวบินโต 25%)

ทั้งนี้ภายใต้สมมติฐานนักท่องเที่ยวจีนเร่งขึ้นทุกเดือนตามสัดส่วนจำนวนเที่ยวบิน และนักท่องเที่ยว (ไม่รวมจีน) อิงสมมติฐานสัดส่วน % เทียบฐานนักท่องเที่ยวช่วงเดียวกันปี 62 (ก่อน COVID) เท่ากับ มี.ค. 66 ที่ 78.4% ช่วงที่เหลือของปี มองนักท่องเที่ยวทั้งปี 66 ลุ้นเกินกว่าระดับ 30 ล้านคนเล็กน้อย (กรอบบนของ Consensus) มองบวกต่อ AOT, AAV, ERW, CENTEL,CRC,MAKRO,ADVANC

บล.กรุงศรี ระบุว่า ERW ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ เนื่องจาก i) ARR (ไม่รวม,Hop Inn) สูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากอุปสงค์แข็งแกร่งขึ้นในครึ่งหลังปี 66) แนวโน้มปี 66 ยังคงแข็งแกร่ง โดยผลประกอบการน่าจะผ่านจุดตำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/66 และน่าจะเริมฟื้นตัวขึ้นได้ในไตรมาส 3/66 ในขณะที่ราคาหุ้นตกลงมาในช่วงนี้เพราะภาวะตลาดระยะสันจากการที่จำนวนนักท่องเทียต่างชาติลดลง MTD ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสให้เข้าซื้อสะสม ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 66-67 ขึ้นอีก 35% และ 12% เป็น 697 ล้านบาท และ 975 ล้านบาทตามลำดับ ดังนันจึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 5.80 บาท

ด้าน ERW รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 พลิกมีกำไรสุทธิ 238 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุนทุน 313 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเติบโตอย่างเด่นชัดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยในไตรมาส 1/66 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 6.5 ล้านคน เติบโตร้อยละ19 จากไตรมาส 4/65 และร้อยละ 1,202 จากไตรมาส 1/65 ส่งผลให้โดยภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 ของทั้งกลุ่มโรงแรมในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า

โดยรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเติบโตร้อยละ 4 จากไตรมาส 4/65 จากการเติบโตทั้งอัตราการเข้าพักและค่าห้องพักเฉลี่ยในไตรมาส 1/66 บริษัทฯ บันทึกรายได้รวมจากการดำเนินงานเท่ากับ 1,753 ล้านบาท เติบโตร้อยละ175 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/65 และเติบโตร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/65

Back to top button