SAT-AH ดีดบวก! รับยอดผลิตรถยนต์ 4 เดือนแรก ทะลุ 6 แสนคัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(25 พ.ค.66) ราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์ดีดบวก รับยอดผลิตรถยนต์ 4 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 6.3 แสนคัน โต 5% นำโดยบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH  ณ เวลา 10:08 น. อยู่ที่ระดับ 34.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.74% ราคาสูงสุด 34.25 บาท ราคาต่ำสุด 34.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 0.75  ล้านบาท

บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ณ เวลา 10:09 น. อยู่ที่ระดับ 19.90 บาท บวก 0.10 บาท  หรือ 0.51% ราคาสูงสุด 19.90 บาท ราคาต่ำสุด 19.90 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 0.21 ล้านบาท

บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(25 พ.ค.66) ว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือน เม.ย.66 ทรงตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส.อ.ท.รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน เม.ย.23 อยู่ที่ 1.2แสนคัน ทรงตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 35% เทียบเดือนก่อนหน้า โดยลดลงเทียบเดือนก่อนหน้ามาก เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาลที่ในเดือน เม.ย. มีมีวันหยุดมาก และผู้ประกอบการเร่งผลิตไว้ล่วงหน้า

สำหรับยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 6 หมื่นคัน ลดลง 6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 26% เทียบเดือนก่อนหน้า จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน เนื่องจากหนี้ครัวเรือนอยู่ในอัตราสูงและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น

ขณะที่ยอดส่งออกยังทำได้ดีที่ 8 หมื่นคัน โต 44% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 19% เทียบเดือนก่อนหน้า โดยเติบโต เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดดเด่นจากฐานต่ำกว่าปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิ้นส่วน semiconductor

ทั้งนี้ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ 4 เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 6.3 แสนคัน โต 5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยรถยนต์นั่ง BEV มียอดจดทะเบียนใหม่เดือน เม.ย.23 ยังเติบโตสูง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง เทียบเดือนก่อนหน้า โดยมียอดจดทะเบียนใหม่อยู่ที่ 3,820 คัน  โต 882% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 38% เทียบเดือนก่อนหน้า โดยค่ายรถยนต์ BYD มีสัดส่วนมากสุดที่ 46% ส่วน MG อันดับ 2 อยู่ที่ 17% ตามมาด้วย NETA 15% และ TELSA 14% (Fig.3,4) รวมไตรมาส 1/66 รถยนต์นั่ง BEV มียอดจดทะเบียนใหม่จำนวน 1.84 หมื่นคัน โต 1,030% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้มองเป็นกลางจากยอดผลิตรถยนต์เดือน เม.ย.66 ที่ทรงตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงเทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็นไปตามคาด เนื่องจากมีวันหยุดยาวในเดือน เม.ย. สำหรับยอดผลิตรถยนต์ 4 เดือนแรกปีนี้จะคิดเป็น 32% จากทั้งปี 66 ที่ประเมินที่ 1.95 ล้านคัน โต 4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งประเมินจะยังสามารถทำได้ตามเป้าหมายจากยอดส่งออกรถยนต์ที่จะยังมีการเติบโตได้ดี ช่วยชดเชยยอดขายรถยนต์ในประเทศที่จะชะลอตัว

โดยกลุ่ม Automotive ยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “Neutral” โดยราคาหุ้นกลุ่ม Automotive ปรับตัว outperform SET โต 4% ในช่วง 3 เดือน จากยอดผลิตรถยนต์ที่ยังเติบโตได้ดี

สำหรับหุ้น SAT ยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24.00 บาท บาท โดยประเมินกำไรปกติปี 66 ที่ 1.04 พันล้านบาท โต 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดผลิตรถยนต์ที่ดีขึ้น และได้รับคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น สำหรับกำไรไตรมาส 2/66 จะยังคงดีขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น แต่ละลดลงเทียบไตรมาสก่อนหน้าตามปัจจัยฤดูกาลที่ในไตร มาส 2 มีวันทำงานน้อยลง

นอกจากนั้นจากยอดส่งออกรถยนต์ที่ยังคงเติบโตได้ดีมองเป็นบวกต่อ NYT ราคาเป้า Bloomberg consensus เฉลี่ย 4.40 บาท ที่ทำธุรกิจท่าเรือส่งออกและนำเข้ารถยนต์ ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลงต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันมองเป็นลบต่อกลุ่มธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้ออย่าง TISCO แนะนำถือราคาเป้าหมาย 105  บาท, KKP แนะนำนำถือราคาเป้าหมาย 72 บาท และ TTB  แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 1.65 บาท โดยมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อที่ 50%, 48% และ 30% ตามลำดับ