TLI-WHA ดีดบวก! เก็งกำไรจ่อเข้าดัชนี SET50 ครึ่งหลังปีนี้
TLI-WHA ดีดบวก! เก็งกำไรจ่อเข้าคำนวณดัชนี SET50 รอบครึ่งหลังปีนี้ ด้านบล.กรุงศรี พัฒนสิน ให้ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท หุ้นมีอัพไซด์ 58% ส่วน WHA คาดจ่อเข้า SET50 เช่นกัน แนะซื้อราคาเป้าหมาย 5 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(29 พ.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI ณ เวลา 10:47 น. อยู่ที่ระดับ 12.50 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.63% สูงสุดที่ระดับ 12.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 12.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35.79 ล้านบาท
ส่วนบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ณ เวลา 10:52 น. อยู่ที่ระดับ 4.44 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 0.91% สูงสุดที่ระดับ 4.46 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.42 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 32.48 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรลุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET50-SET100 รอบใหม่ โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมจะประกาศหุ้นที่เข้าออกจากการคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2566 และมีผลบังคับใช้เริ่มวันที่ 1 ก.ค.-30 ธ.ค. 2566 โดยจะมีการใช้ข้อมูลที่เป็นเกณฑ์สำหรับหุ้นเข้าออกดัชนี SET50 และ SET100 ตามที่กำหนดไว้ช่วงระหว่าง 1 มิ.ย. 2565 และสิ้นสุดวันสุดท้าย 31 พ.ค. 2566
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หุ้นที่จะเข้า SET50 รอบนี้มี 2 บริษัท คือบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI (มาร์เก็ตแคป ณ วันที่ 26 พ.ค. 2566 อยู่ที่ 140,835 ล้านบาท ซึ่งทีมกลยุทธ์ยังคงแนะนำซื้อ TLI ให้ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท (หุ้นมีอัพไซด์ 58.53% ณ ราคาปิด 12.30 บาท เมื่อวันศุกร์ที่ 26 พ.ค. 2566) เพราะโครงสร้างดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะขยับขึ้นอีก ขณะเดียวกันกลุ่มประกันจะดีจริงจังช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่งปีนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว
ดังนั้น ทีมกลยุทธ์จึงมองว่าเบี้ยประกันภัยปีแรก (First Year Premium) ปีนี้จะเติบโตต่อเนื่อง ส่วน Value of New Business (VoNB) เติบโตได้ดับเบิลดิจิตส์ (Double Digits) เพราะ VoNB ของมาร์จิ้นยังอยู่ระดับค่อนข้างสูง ขณะที่รายได้จากการลงทุนสุทธิ (Net investment income) ปีนี้คาดว่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นคีย์หลักที่จะทำให้มองว่า TLI รายได้น่าจะดีขึ้น
อีกหนึ่งหุ้นคือ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ซึ่งอยู่ในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ทีมกลยุทธ์ชื่นชอบอยู่แล้ว และมองว่าเป็นหุ้นที่มีความผันผวนระยะสั้น หากราคาย่อลงมาจากประเด็นต่าง ๆ สามารถซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวได้ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของไทยช่วงอีก 4 ปีข้างหน้า จะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ระดับศักยภาพการขนส่งไทยจะสมบูรณ์ และเหนือกว่าประเทศอื่นในอาเซียนมากพอสมควร แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 5 บาท
ส่วนหุ้นที่มีโอกาสจะถูกคัดออก คือบริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART, บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT
สำหรับหุ้นที่จะเข้า SET100 มีทั้งหมด 8 บริษัท คือ TLI, บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG, บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK, บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO, บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA, บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC
ส่วนหุ้นที่คาดจะหลุดจาก SET100 คือ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC, บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG, บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS, บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX, บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE, บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF, บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY, บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM
อย่างไรก็ตาม แนะนำเลือกลงทุนหุ้นที่มีโอกาสได้เข้า SET50 และหลีกเลี่ยงหุ้นที่ถูกคัดออก เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะถูกขายก่อนการลดน้ำหนักของ Index Fund ขณะที่หุ้นมีโอกาสเข้า SET50 ก่อนประกาศและมีผลบังคับใช้จริง อาจจะผันผวนเป็นปกติ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า เพื่อให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้ล่วงหน้า จึงคาดการณ์รายชื่อหุ้นเข้า-ออก SET50 และ SET100 ที่จะใช้สำหรับการคำนวณช่วงครึ่งปีหลังนี้
โดยหุ้นที่จะเข้า SET50 มี 2 ตัว คือ TLI และ WHA (เรียงลำดับตามมูลค่าตลาดรวมจากมากไปหาน้อย เพื่อสะท้อนความเป็นไปได้ในการเข้า SET50 Index มากถึงน้อย)
ทั้งนี้ จากการศึกษาความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในอดีต นับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2552 เป็นต้นมา หุ้นที่เข้า SET50 มักมีราคาหุ้นปรับตัวทิศทางที่ดีกว่าตลาด (Outperform) ช่วง 1-2 เดือนล่วงหน้า ก่อนมีผลบังคับใช้จริง ด้วยผลตอบแทนคาดหวังโดยเฉลี่ยประมาณ 6-7% และมีโอกาสทำกำไรสูงประมาณ 70%
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ว่า TLI จะมีกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 10,736 ล้านบาท เติบโต 15.9% โดย TLI มีความน่าสนใจจากแนวโน้มธุรกิจที่ยังขยายตัวได้ดี ขณะที่ราคาหุ้น Underperform มานาน จนปัจจุบันมีอัพไซด์สูงมากจากมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ที่ 19.10 บาท และคาดให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 2.5%