“สาธารณสุข” ย้ำวัคซีนยังจำเป็น หลัง “กทม.-ปริมณฑล” ยอดโควิดพุ่ง
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้สถานการณ์แนวโน้มโควิด-19 ยังระบาดสูงในกรุงเทพฯและปริมณฑล เน้นเฝ้าระวังกลุ่มผู้ป่วยหนัก เผยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังฉีดวัคซีนน้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 พ.ค.66) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้พบว่า เป็นไปตามการคาดการณ์ทางระบาดวิทยา ที่จะพบการระบาดมากขึ้นในช่วงหลังสงกรานต์ ช่วงเปิดภาคเรียน และช่วงฤดูฝน โดยกระทรวงสาธารณสุขเน้นติดตามจำนวนผู้ป่วยอาการหนักในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวน 253 คน ส่วนผู้เสียชีวิต 64 คน
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้สูงอายุและคนที่มีโรคประจำตัว พบว่าผู้สูงอายุที่เสียชีวิต บางคนฉีดวัคซีนเพียง 1-2 เข็มเท่านั้น หรือบางคนไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว จึงเน้นย้ำว่าวัคซีนยังคงจำเป็นในกลุ่ม 608 คือผู้สูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์
ทั้งนี้ตามรายงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า สายพันธุ์ XBB.1.16 มีแนวโน้มการระบาดมากขึ้น แต่ไม่พบข้อมูลการแพร่เร็วขึ้นหรืออาการรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้อย่างมีนัยสำคัญ
นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า การระบาดของโควิด-19 ขณะนี้พบมากในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงาน มีกิจกรรมทางสังคม และมีโอกาสที่นำเชื้อไปติดคนในครอบครัวโดยเฉพาะผู้สูงอายุ
อีกทั้งพบว่าคนที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงในรอบการระบาดนี้ที่มีโอกาสติดเชื้อได้ รวมทั้งการที่เคยติดเชื้อแล้ว ก็มีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้ ขณะนี้พบว่าบางคนเคยติดเชื้อแล้วถึง 3 ครั้ง แต่กรณีที่ติดเชื้อซ้ำพบว่าอาการไม่รุนแรงมากนัก ขณะนี้พบว่าคนไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่อยู่ที่ร้อยละ 97
ขณะที่ในเรือนจำยังถือเป็นพื้นที่เสี่ยงยังต้องมีมาตรการควบคุม และจะประสานไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อเข้าไปฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขัง