SICT ดีดบวก 4% หลังร่วงยาว 5 วัน ลุ้นรายได้ปีนี้โต 15% รับออเดอร์พุ่ง-ลงทุน R&D
SICT เด้งเกือบ 4% ผู้บริหารคงเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% โชว์ยอดคำสั่งซื้อมากกว่ารายได้ของปีก่อน ลงทุน R&D พร้อมมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ ส่วนปัญหา Supply Shortage คาดครึ่งปีหลังกลับมาเป็นปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 มิ.ย.66) ราคาหุ้น บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ณ เวลา 10:04 น. อยู่ที่ระดับ 9.45 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ระดับ 9.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.26 ล้านบาท
ด้าน นายบดินทร์ เกษมเศรษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SICT กล่าวว่า ปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อน และตั้งเป้ารักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ 47% จากกลุ่มธุรกิจที่มีการขยายตัวเติบโตต่อเนื่อง การควบคุมต้นทุน โดยบริษัทจะพยายามผลักดันอัตรากำไรขั้นต้นให้ได้ 46-48% และจะพยายามสร้างความเติบโตให้ได้ในทุก ๆ ไตรมาส และมองว่ากลุ่มธุรกิจระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal ID) ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นหลักที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้ในปีนี้จากการบังคับใช้กฎหมายในทวีปออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ในปีนี้มั่นใจว่าบริษัทจะมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมียอดคำสั่งซื้อมากกว่ารายได้ของปี 2565 แล้ว แต่ต้องดูในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีว่าจะมีเพิ่มเติมเข้ามาอีกมากน้อยแค่ไหน ซึ่งทางบริษัทได้มีการทำรายการสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่มากขึ้น และมีการทำแผนธุรกิจระยะยาวมากขึ้น อีกทั้งในปี 2567 มีคำสั่งซื้อเกือบ 50% ของรายได้ปี 2565 แล้ว
ขณะเดียวกันในปี 2568 บริษัทก็มีการทำแผนธุรกิจในการทำสัญญาในระยะยาวแล้ว รวมถึงการลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่มีการลงทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องแล้ว โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาและทำการศึกษาวิจัยอีกมาก รวมถึงยังมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ด้านการเติบโตของบริษัทในอนาคตอีกด้วย จึงเชื่อว่าบริษัทจะยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ด้านปัญหาเรื่องการขาดแคลนซัพพลาย (Supply Shortage) จะกลับมาดีขึ้นอย่างมาก โดยคาดผ่านพ้นครึ่งปีแรกนี้ก็น่าจะกลับมาเป็นปกติ และอาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อขายใหม่ ขณะที่ภาพรวมทั่วโลก นักวิเคราะห์ต่างมองว่าการชะลอตัวของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ เป็นเพียงปัจจัยระยะสั้นจากปัญหาสงครามและปัญหาทางการเมือง แต่ก็เชื่อว่าโดยภาพรวมจะยังมีแนวโน้มในการเติบโตจากการใช้เซมิคอนดักเตอร์ที่มากขึ้นในทุก ๆ ปี จึงมองว่าในระยาวจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
นอกจากนี้ในส่วนของการดำเนินธุรกิจของบริษัท มองว่านโยบายของประเทศทั้งจากรัฐบาลปัจจุบันและรัฐบาลที่กำลังเตรียมจัดตั้ง ในเรื่องของด้านเทคโนโลยีมีทิศทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่อง Smart Electronic ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็ได้รับการสนับสนุนทั้งงบประมาณ และองค์ความรู้ด้านทำการวิจัยพัฒนา จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และอีกหลายหน่วยงานที่ได้ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง