INTUCH จี้ “ไอทีวี” เร่งตรวจสอบปม ดราม่าคลิป-รายงานประชุมไม่ตรง
INTUCH แจงปม “ITV” อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หลังมีคลิปรายงานประชุมไม่ตรงกัน
นายคิมห์ สิริทวีชัย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ได้มีการทำหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่มีข่าวที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ไอทีวี ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ INTUCH ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 52.92 ปรากฏตามสื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมผู้ถือหุ้นของ ITV ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่สนใจต่อสาธารณชนจำนวนมากในขณะนี้ ทางบริษัทได้รับทราบข้อมูล และได้ให้ทางคณะกรรมการและฝ่ายจัดการของไอทีวี ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าวที่เกิดขึ้นและหากมีประเด็นใด ๆ ที่จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ทางไอทีวีจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อให้มีความโปร่งใสเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับเรื่องดังกล่าวนี้คาดว่ามาจากกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ มีการร้องเรียน คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เรื่องการถือหุ้นสื่อ หรือ หุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเตดนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ต่อมาเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายพิธาได้มีการโอนหุ้นดังกล่าวออกไปแล้วนั้น
ล่าสุดรายการข่าว 3 มิติ ได้มีการเปิดคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ซึ่งได้รับข้อมูลมาจากหนึ่งในผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี ผู้ถือหุ้นไอทีวี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 เพื่อให้ตรวจสอบว่า บันทึกการประชุมที่มีการเผยแพร่เป็นเอกสาร ไม่ตรงกับการประชุมที่มีการถ่ายทอดผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการบันทึกเป็นคลิปวิดีโอไว้
โดยเฉพาะช่วงคำถามว่า ไอทีวี ยังดำเนินกิจการสื่อหรือไม่ จึงอยากให้ตั้งคำถามไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นห่วงว่าจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของไอทีวีที่อาจจะกลับมาดำเนินกิจการต่อไป หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา กรณี สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี หรือ สปน. ยกเลิกสัมปทานสถานีโทรทัศน์ไอทีวี
ทั้งนี้มีการเปิดคลิปการประชุมระบุเสียงว่า “อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคม สิ้นปีนี้ บริษัทจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นเสนอวาระล่วงหน้า สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีถัดไป โดยผู้ถือหุ้นสามารถอ่านคำแนะนำและวิธีการเสนอวาระ ในเว็บไซต์ของบริษัท www.itv.co.th หรือติดต่อสอบถามฝ่ายเลขานุการของบริษัทได้”
“ไม่ทราบว่าผู้ถือหุ้นมีข้อซักถามอื่นๆ อีกหรือเปล่าครับ”
“มีคำถามมาจาก คุณภาณุวัฒน์ ขวัญยืน มาด้วยตัวเองนะครับ มีการดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่อหรือทีวีไหมครับ”
“ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อน”
“จากคุณวิรัตน์ คล่องประกิจ หากคดีความต่างๆ จบสิ้นเรียบร้อย บริษัทจะมีปันผลไหม บริษัทจะมีแผนการดำเนินงานธุรกิจต่อไป จะเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกหรือเปล่า บริษัทมีแผนจะชำระบัญชี หรือกิจการอื่นๆ แก่ผู้ถือหุ้นหรือไม่”
“ขอเรียนอย่างนี้ ผมว่าผลของคดีเป็น เขาเรียกว่าอะไรเป็นจุดสำคัญที่สุดของบริษัท ถ้าผลคดียังไม่ได้ออกมา มันเป็นไปได้ยากมากที่เราจะดำเนินการใดๆ กับไอทีวี ณ ขณะนี้ อย่างในอดีตที่ผ่านมา เราได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินมาดู Option ต่างๆ ทางเลือกต่างๆ ก็ยังไม่ได้มีทางเลือกใดๆ ที่เหมาะสม ณ ขณะนี้ ทั้งหมดทั้งมวล ต้องรอผลทางคดี ถ้าผลคดีสิ้นสุดลงแล้ว ทางบริษัทจะพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมให้กับทางผู้ถือหุ้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพิจารณา จะจ่ายเงินปันผลอย่างไร จะดำเนินธุรกิจต่อไปหรือไม่อย่างไร หรือจะชำระบัญชีอย่างไรทางเราจะพิจารณาทางเลือกที่มีทั้งหมดและเลือกทางเลือกที่เหมาะสมให้ผู้ถือหุ้นต่อไป”