PSG ดีดบวก 6% เก็งงบ Q2 โตต่อ บุ๊กรายได้ก่อสร้างต่างประเทศหนุน
PSG ดีดบวก 6% เก็งงบไตรมาส 2/66 โตต่อ ตามรายได้ก่อสร้างต่างประเทศหนุน พ่วงเตรียมบุ๊กรายได้งานใหม่สปป.ลาว 5 พันล้าน หลังลงนามสัญญาก่อสร้างตามแผน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(12มิ.ย.66) ราคาหุ้นบริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSG ณ เวลา 11:00 น. อยู่ที่ระดับ 0.86 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 21.74% สูงสุดที่ระดับ 1.12 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.91 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 134.06 ล้านบาท คาดเก็งกำไรผลงานไตรมาส 2/66 โตต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้ก่อสร้างจากโครงการในต่างประเทศ
โดยก่อนหน้านี้นายเดวิด แวน ดาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 141.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 808% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 19.01 ล้านบาท และมีรายได้รวม 337.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,553% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 12.73 ล้านบาท
โดยกลุ่มบริษัทได้รับรู้รายได้ค่าก่อสร้างจากโครงการในต่างประเทศ เป็นจำนวนประมาณ 9.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 335.09 ล้านบาท และมีรายได้อื่น 2.57 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นของเงินลงทุนระยะสั้น จำนวน 1.2 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ จำนวน 0.89 ล้านบาท จากการกลับรายการสำรองความเสียหาย (Defect) ของโครงการและเงินค่าธรรมเนียมศาลรับคืน
อีดทั้งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 66 ได้พิจารณาและมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงนาม Turnkey Contract for Resettlement Development Site Construction กับ Phornsavarn Development Sole Company Limited เพื่อรับสิทธิในการดำเนินงานก่อสร้างชุมชนใหม่ และงานก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองจอมเพชร สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 55 เดือน โดยบริษัทจะเข้าลงนามในสัญญาก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับ Phornsavarn Development Sole Company Limited ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม
และยังมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงนาม Amendment Agreement to the Turnkey Contract for the Expansion of Coal Production Phase 1 เนื่องมาจากเจ้าของโครงการมีความประสงค์ให้ปรับแผนงานการก่อสร้างโครงการ มีปริมาณงานเพิ่ม/ลด รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงขอบเขตงานบางส่วน โดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไป จากเดิม 32 เดือน เปลี่ยนเป็น 43 เดือน
ทั้งนี้ มูลค่าสัญญาก่อสร้างคงเดิม และไม่ส่งผลกระทบกับแผนการล้างขาดทุนสะสมตามที่บริษัทเคยแจ้งในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 การขยายระยะเวลาก่อสร้างดังกล่าวเป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าของโครงการ ไม่ได้เกิดจากสาเหตุการก่อสร้างล่าช้าหรือความบกพร่องของบริษัท โดยบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาข้อสรุปและเข้าลงนาม Amendment Agreement กับ Xekong Power Plant Company Limited ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม