LHHOTEL ปิดจองซื้อเตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลาย ธ.ค.นี้

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) ที่เข้าลงทุนในโครงการโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ย่านอโศก-สุขุมวิท เป็นระยะเวลาประมาณ 25 ปี ปิดการจองซื้อหน่วยทรัสต์ ซึ่งมีราคาเสนอขายหน่วยละ 10 บาท มูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 3,825 ล้านบาท


นางสาววรดา ตั้งสืบกุล รองผู้จัดการใหญ่ สายวาณิชธนกิจ 1 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อหน่วยทรัสต์ LHHOTEL เพื่อเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ของโครงการโรงแรม    แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 เป็นระยะเวลาประมาณ 25 ปี เมื่อวันที่ 27 และ 30 พฤศจิกายน และวันที่ 1-3 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนเปิดให้นักลงทุนสถาบันจองซื้อเมื่อวันที่ 4 และ 8-9 ธันวาคม 2558

โดยมีราคาเสนอขายหน่วยละ 10 บาท พบว่านักลงทุนรายย่อยและสถาบันให้การตอบรับที่ดี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อทรัสต์ LHHOTEL จะสามารถสร้างผลตอบแทนคุ้มค่าให้กับนักลงทุนได้

สำหรับโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนนั้น มีจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ในย่านอโศก-สุขุมวิท ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า BTS และ MRT รวมถึงมีพื้นที่ติดกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ซึ่งมีร้านอาหาร แฟชั่น โรงภาพยนตร์และซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำมากกว่า 500 ร้านค้า  นอกจากนี้ ยังแวดล้อมด้วยอาคารสำนักงาน แหล่งช้อปปิ้ง สวนสาธารณะ ฯลฯ จึงเป็นจุดเชื่อมภาคธุรกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว บันเทิงและไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบที่สำคัญของกรุงเทพฯ

ด้านนางจันทนา กาญจนาคม กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ LHHOTEL กล่าวว่า โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 นับเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพและผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยเป็นอาคารสูง 28 ชั้นและชั้นใต้ดิน 2 ชั้น มีพื้นที่รวมประมาณ 47,298 ตารางเมตร ซึ่งห้องพักได้รับการออกแบบและตกแต่งให้รองรับได้ทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ

โดยนับจากเปิดให้บริการมากว่า 3 ปี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นมา โรงแรมมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมาโดยตลอด คิดเป็นอัตราเข้าพักเฉลี่ยต่อปีในช่วงปี 2555 – 2557 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 85 และมีอัตราค่าเช่าห้องพักในปี 2555 – พ.ค. 2558 เติบโตเฉลี่ยปีละประมาณร้อยละ 13 โดยนอกจากทำเลที่ตั้งของโรงแรมซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมศักยภาพของโรงแรมแล้ว ยังได้รับปัจจัยเกื้อหนุนจากภาคการท่องเที่ยวของไทยที่มีอัตราการขยายตัวที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากฝั่งเอเชียทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี ฯลฯ ซึ่งส่วนหนึ่งนิยมพักอาศัยในย่านใจกลางเมืองเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง

ทั้งนี้ กองทรัสต์ LHHOTEL ซึ่งเป็นกองทรัสต์โรงแรมกองแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีมูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 3,825 ล้านบาท ซึ่งมาจากการระดมทุนจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์ทั้งหมดเป็นจำนวนเงินประมาณ 3,137 ล้านบาท และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินประมาณ 688 ล้านบาท  

“สำหรับนักลงทุนที่ไม่สามารถจองซื้อหน่วยทรัสต์ในช่วงเปิดจองซื้อที่ผ่านมา สามารถซื้อหน่วยทรัสต์จากกระดานในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่ากองทรัสต์ LHHOTEL จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรกในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ และเชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้” นางจันทนา กล่าว  

Back to top button