“คลัง” ให้ความมั่นใจ พร้อมใช้มาตรการช่วยพยุงราคาน้ำมันดีเซล 32 บาท/ลิตร
“ปลัดคลัง” ให้ความมั่นใจปชช. ไม่ต้องกังวลเรื่องลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล พร้อมใช้มาตรการหลายรูปแบบ ตรึงลิตรละ 32 บาท
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดูแลประชาชนในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในช่วงของรัฐบาลรักษาการ ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่จะสิ้นสุดลง วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 นี้ ซึ่งจะยังคงมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ลิตร 32 บาทเหมือนเดิม
นายกฤษฎา กล่าวว่า ทั้งนี้ หากการลดภาษีน้ำมันติดข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซลต่อไปได้ เนื่องจากรัฐบาลอยู่ในช่วงรักษาการนั้น ประชาชนไม่ต้องกังวล ราคาน้ำมันจะไม่มีผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลยังมีวิธีการดูแลในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลดอัตราภาษี หรือใช้วิธีการลดเงินนำส่งของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง ซึ่งจะต้องมาดูวิธีการในการดำเนินการอีกครั้ง เป็นเรื่องที่สามารถบริหารจัดการได้
“รัฐบาลมีกระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวา สามารถดูแลประชาชนได้ และจะยังคงตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ลิตรละ 32 บาทเหมือนเดิม สมมุติว่าไม่สามารถลดภาษีน้ำมันดีเซลต่อไปได้ ภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาทต้อง กองทุนน้ำมันก็จะไปลดราคาลง 5 บาท หรือเข้าไปสนับสนุนส่วนนั้นแทน” นายกฤษฎา กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวว่า ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนน้ำมัน ยังมีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งยังมีวงเงินเหลืออยู่จำนวนมาก และหนี้สินของกองทุนน้ำมันก็ลดลงมาเหลือเพียง 5 หมื่นล้านบาทแล้ว จากเดิมอยู่ที่ระดับ 1 แสนล้านบาท เชื่อว่ากองทุนสามารถบริหารจัดการได้ หากใช้เครื่องมือกองทุนน้ำมันแทนการลดภาษีดีเซล
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสรรพสามิอยู่ระหว่างพิจารณาประเด็นกฎหมายตามรัฐธรรมนูญว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน สามารถตัดสินใจต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนได้หรือไม่ หรือต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่ ที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลมาดำเนินการต่อ
นายเอกนิติ กล่าวว่า สำหรับโครงสร้างภาษีในส่วนของกรมสรรพสามิต ที่ต้องปรับปรุงและเตรียมเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัตินั้น ได้แก่ ภาษียาสูบ ที่กรมอยู่ระหว่างการศึกษาจาก 2 อัตราให้เหลืออัตราเดียว ภาษีสุราและเบียร์ ภาษีน้ำมัน และภาษีสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ก็ต้องรอนโยบายของรัฐบาลใหม่