ราคาทองปิดร่วงกว่า 12 ดอลล์ จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 12.3 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ระดับ 1,063.40 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 18.9 เซนต์ หรือ 1.36% ปิดที่ 13.695 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 850.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 548.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน โดยเมื่อดอลลาร์แข็งค่าจะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ

ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับที่เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ โดยนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการว่างงานลดต่ำลง และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด

Back to top button