WHA-AMATA บวกคึก! รับ “พานาโซนิค” เตรียมย้ายฐานผลิตจากจีน-ญี่ปุ่นมาไทย

WHA-AMATA บวกคึก! รับอานิสงส์ “พานาโซนิค” เตรียมย้ายฐานผลิตจากจีน-ญี่ปุ่นมาไทย คาดทยอยลงทุนเพิ่มกว่า 1.4 แสนล้านบาท โบรกแนะซื้อมองบวกกลุ่มนิคมเน้น AMATA


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ก.ค.66) ราคาหุ้นนิคมอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น คาดรับอานิสงส์พานาโซนิคเตรียมย้ายฐานการผลิตจากจีนและญี่ปุ่นมายังไทยไทย นำโดยบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ณ เวลา 11:35 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 4.68 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 2.18% โดยทำจุดสูงสุดที่ 4.70 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 4.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 310.16 ล้านบาท

ด้านบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA ณ เวลา 11:36 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 22.50 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 2.74% โดยทำจุดสูงสุดที่ 22.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 21.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 99.08 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ว่า FDI: พานาโซนิค เตรียมย้ายฐานการผลิตจากจีนและญี่ปุ่นมายังไทย โดยจะทยอยลงทุนเพิ่มกว่า 1.4 แสนล้านบาท มองบวกต่อกลุ่มนิคม (AMATA, WHA) เน้น AMATA

ด้านนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวว่าบริษัท พานาโซนิค อีโคโลจี ซีสเต็มส์ จังหวัดสมุทรปราการ ได้ปิดตัวลงในเดือนมิ.ย. 2566 บีโอไอได้รับแจ้งจากผู้บริหารของบริษัทฯ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น

โดยจะควบรวมโรงงานที่มีผลิตภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันรวมไว้ที่โรงงานขนาดใหญ่ และปิดโรงงานขนาดเล็ก ทำให้จะมีการปิดโรงงานขนาดเล็กในไทย แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการลงทุนเพิ่มเติมในอีกหลายผลิตภัณฑ์ด้วย

ปัจจุบัน กลุ่มพานาโซนิค ประเทศไทย มีทั้งสิ้น 11 โรงงาน เป็นโรงงานขนาดใหญ่ 4 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 80% ของทั้งกลุ่ม และมีโรงงานขนาดเล็ก 7 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 20% ของทั้งกลุ่ม นับตั้งแต่ปี 2563 โรงงานขนาดเล็กในไทย 3 แห่ง ทยอยปิดตัวลง เพื่อย้ายไปรวมกับโรงงานที่มีขนาดใหญ่กว่าในผลิตภัณฑ์เดียวกัน

สำหรับโรงงานที่ได้ปิดตัวลงในเดือนที่ผ่านมาเป็นโรงงานขนาดเล็กแห่งที่ 4 ผลิตพัดลมระบายอากาศ ภายใต้ชื่อบริษัท พานาโซนิค อีโคโลจี ซีสเต็มส์ ส่วนโรงงานขนาดเล็กที่เหลืออีก 3 แห่ง เป็นโรงงานสำคัญที่ยังผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง

สำหรับโรงงานขนาดใหญ่ที่อยู่ในประเทศไทยทั้ง 4 แห่ง ซึ่งผลิตระบบ Infotainment ในยานยนต์   ถ่านไฟฉาย และอุปกรณ์อุตสาหกรรม ยังเดินหน้าการผลิตและขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปิดโรงงานในต่างประเทศเพื่อมาใช้กำลังการผลิตในประเทศไทยด้วย

ล่าสุด บริษัท พานาโซนิค อินดัสเตรียล ดิไวซ์ ซังค์ ประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน Electronic Measuring Instrument และอุปกรณ์อัตโนมัติ เช่น Programmable Logic Controller (PLC) ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนและทักษะแรงงานสูง ได้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ทำให้มีการใช้วัตถุดิบและจ้างแรงงานในประเทศไทยจำนวนมาก

นอกจากนี้ได้มีการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ Automotive Switch ที่จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งในประเทศไทยมีสำนักงานภูมิภาคในธุรกิจผลิต Switch, LED, Lighting  และมีศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทในส่วนผลิตภัณฑ์ Infotainment ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ประเทศไทยด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายสำคัญที่ไทยต้องการดึงลงทุนเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย และจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ทำให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีการย้ายฐานผลิตเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ซัพพลายเชน

ซึ่งหลังจากบีโอไอจัดกิจกรรมเชิงรุกเพื่อดึงการลงทุนตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โดยได้เดินทางไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ และยุโรป มีนักลงทุนให้ความสนใจและยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไออย่างต่อเนื่อง

“ปัญหาสงครามการค้าและความขัดแย้งระหว่างประเทศทำให้มีผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรามชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทข้ามชาติจึงมีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยกลุ่มพานาโซนิค ได้เลือกไทยให้เป็นฐานการผลิตของผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีและทักษะในการผลิตสูง เช่น PLC อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ หรือการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทย”

โดยเฉพาะความพร้อมของซัพพลายเชน และความต่อเนื่องของการดำเนินธุรกิจ รวมถึงศักยภาพในการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงที่จะเป็นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอื่น ๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าและดิจิทัล

สำหรับช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ค.66) บีโอไอให้การส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวม 79 โครงการ มูลค่า 143,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากโครงการลงทุนของพานาโซนิคแล้ว ยังมีโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ เช่น กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับระบบโทรคมนาคมแบบใยแก้วนำแสง และระบบชิพควบคุมระบบกำลัง (Power Chip) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีนที่ตัดสินใจมาลงทุนในไทย

Back to top button