ไม่พลิกโผ”ปดิพัทธ์” ชนะโหวต คว้าเก้าอี้นั่ง“รองปธ.สภาฯ คนที่ 1”

ที่ประชุมสภามีมติ เลือก “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” จากก้าวไกล เป็นรองประธานสภาคนที่ 1 เอาชนะ “วิทยา แก้วภราดัย” แบบขาดลอย ส่วน“พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” จากพรรคเพื่อไทย คว้ารองประธานสภาคนที่ 2 แบบไร้คู่แข่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ด้วยการลงคะแนนลับ ซึ่งมีจำนวน 2 คน คือ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเริ่มลงคะแนนเมื่อเวลา 11.15 น.  และหลังใช้เวลาการนับคะแนนนานกว่า 2 ชั่วโมง ผลปรากฎว่า มติที่ประชุมเลือก นายปดิพัทธ์ ให้ดำรงตำแหน่ง รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ด้วยคะแนน 312 เสียง ส่วนนายวิทยา ได้ 105 คะแนน ทั้งนี้ พบว่ามีผู้ที่งดออกเสียง จำนวน 77 เสียง จากสมาชิกที่มาลงมติทั้งหมด 496 คน และพบว่ามีบัตรที่ไม่ระบุชื่อ ซึ่งถือเป็นบัตรเสีย 2 ใบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตกับการลงมติดังกล่าว เมื่อแบ่งฝ่าย จาก 8 พรรคร่วมรัฐบาล ที่มี จำนวน ส.ส.ในกลุ่ม 311 เสียง ในการลงมติเลือกพบว่า มีจำนวน ส.ส.ที่ลงคะแนน เกินจากจำนวนดังกล่าวมา 1 คน

ในขณะที่ฝั่งของนายวิทยา ที่เป็นตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติ และตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มี ส.ส. 187 คน พบว่าได้เสียงสนับสนุนไม่ถึงจำนวนดังกล่าว

จากนั้นในเวลาประมาณ 13.35 น.ได้เข้าสู่วาระการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 2 โดย พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ได้ลุกขึ้นเสนอ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 และไม่มีผู้ใดเสนอชื่ออื่นขึ้นมาชิงตำแหน่ง ทำให้นายพิเชษฐ์ ได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ตามข้อบังคับ ไม่ต้องมีการลงคะแนน โดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานสภาฯ ชั่วคราว ได้เปิดให้นายพิเชษฐ์ แสดงวิสัยทัศน์ และหลังจากที่สภาฯ ลงมติเลือก ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คนแล้ว เสร็จ ได้ปิดประชุม เมื่อเวลา 13.53 น.

อย่างไรก็ดี ขั้นตอนหลังจากได้รายชื่อประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ทางเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะส่งรายชื่อไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และรอให้มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ก่อน ซึ่งจะมีกรอบระยะเวลา 15 วัน จึงจะเป็นขั้นตอนการนัดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี

Back to top button