DEXON บวกแรง 6% เก็งงบ Q2 แจ่ม ปักธงรายได้ปีนี้โต 15-20%
DEXON บวกแรง 6% เก็งงบไตรมาส 2/66 แจ่ม มั่นใจทั้งปีรายได้โต 15-20% ล่าสุดรับงานในเอกวาดอร์-อาร์เจนตินาอีก 150 ล้านบาท เริ่มส่งมอบงานตั้งแต่ไตรมาส 4/66 คาดหนุนรายได้ปีนี้เข้าเป้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(13 ก.ค.66) บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ DEXON ณ เวลา 10:24 น. อยู่ที่ระดับ 3.10 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 6.16% ราคาสูงสุด 3.10 บาท ราคาต่ำสุด 2.92 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 9.69 ล้านบาท คาดเก็งกำไรงบไตรมาส 2/66 โตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/66
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.34% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.88 ล้านบาท และมีรายได้รวม 145.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.72% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 105.01 ล้านบาท
โดยก่อนนางมัลลิกา แก่กล้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DEXON เปิดเผยว่าทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้เข้ารับงานในต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 150 ล้านบาท ประกอบไปด้วย การให้บริการตรวจสอบระบบท่อนำส่งด้วยเทคนิคอัลตราโซนิค (UT–Octopus) ในพื้นที่ประเทศเอกวาดอร์ มูลค่าโครงการ 30 ล้านบาท และการให้บริการตรวจสอบระบบท่อนำส่งด้วยเทคนิคอัลตราโซนิค (UT/UT Multi channel and UT Crack Sizing and Detection) ในพื้นที่ประเทศอาร์เจนตินา มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 งานจะเริ่มดำเนินการส่งมอบงานตั้งแต่ไตรมาส 4/2566 โดยโครงการในประเทศเอกวาดอร์ และประเทศอาร์เจนตินามีกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2567 และไตรมาส4/2569 ตามลำดับ นอกจากนี้ในช่วงก่อนหน้าบริษัทได้เข้ารับงานตรวจสอบทางวิศวกรรมระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง หรือ Smart Pigging Technology ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 94.87 ล้านบาท โดยจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดเข้ามาในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ โดยที่บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15-20%
“ในไตรมาสแรกยังเดินหน้าเข้ารับงานอย่างต่อเนื่องทั้งงานให้บริการในพื้นที่ชายฝั่ง และนอกพื้นที่ชายฝั่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้รายได้เติบโตเป็นอย่างดี รวมถึงการเข้ารับงานเพิ่มเติมในทวีปอเมริกาใต้ทำให้มั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงการเจรจาเพื่อลงนามในความร่วมมือเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา ซึ่งข้อตกลงของหนังสือลงนามฉบับนี้เป็นจุดสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเพื่อรองรับการตรวจสอบระบบท่อนำส่งสำหรับพลังงานที่ยั่งยืน” นางมัลลิกา กล่าว