“พิธา” ชี้ ส.ว. คืออุปสรรคนั่งนายก ต้องแก้รธน.มาตรา 272 ปิดสวิตช์อำนาจ
“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ยืนยันต้องแก้รธน.มาตรา 272 ปิดสวิตช์อำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายก จำเป็นต้องให้ประเทศได้เดินต่อ
วันที่ 14 ก.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุว่า ภายใต้กติกาที่ไม่เป็นปกติ ผลการลงมติของรัฐสภาเมื่อวานแสดงให้เห็นชัดว่า ความเคลือบแคลงใจของ ส.ว. ได้กลายมาเป็นอุปสรรคในการทำให้สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ไม่พร้อมจะคืนความปกติให้กับการเมืองไทย
เพื่อแก้ปัญหาความกระอักกระอ่วนใจนี้ เราจึงเสนอผ่าทางตันการเมืองไทยด้วยการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ปิดสวิตช์อำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ อีกครั้ง เพื่อให้ประเทศไทยเดินต่อไปข้างหน้าต่อไปได้
ทางด้าน เพจเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล – Move Forward Party โพสต์ข้อความระบุว่า บทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญ สืบทอดอำนาจ มาตรา 272 ให้อำนาจ ส.ว. (ที่มาจากกระบวนการคัดเลือกและแต่งตั้งโดย คสช.) มีอำนาจร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีด้วย ทำให้เสียงของประชาชนถูกบิดเบือนไป
ในการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2566 ผลออกมาว่าพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ไม่เพียงพอ แม้จะได้รับเสียงจาก ส.ส. ร่วม 8 พรรคการเมืองเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรแล้วก็ตาม
แต่ก็ยังมี ส.ว. อีก 13 คน ที่โหวตเห็นชอบให้พิธาเป็นนายกด้วย พรรคก้าวไกลขอแสดงความขอบคุณในความกล้าหาญของทุกท่านที่ร่วมรักษาหลักการประชาธิปไตย โหวตนายกรัฐมนตรีตามเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร
ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์
จรุงวิทย์ ภูมมา
เฉลา พวงมาลัย
ซากีย์ พิทักษ์คุมพล
ณัฏฐวัฒก์ รอดบางยาง
พิศาล มาณวพัฒน์
พีรศักดิ์ พอจิต
มณเฑียร บุญตัน
วันชัย สอนศิริ
วุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์
สุรเดช จิรัฐิติเจริญ
อำพล จินดาวัฒนะ
ประภาศรี สุฉันทบุตร