“ปลัดคลัง” ลั่น พร้อมเดินหน้าเก็บ“ภาษีขายหุ้น”
“ปลัดกระทรวงการคลัง” พร้อมเตรียมเสนอแผนปฏิรูปเก็บภาษีประเทศต่อรัฐบาลใหม่ ส่วนภาษีขายหุ้นยังไม่ล้ม ยืนยันเดินหน้าต่อ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาแผนปฏิรูปการจัดเก็บรายได้รัฐบาล ทั้งในส่วนของการเพิ่มรายได้ และลดรายจ่าย เพื่อให้เป็นไปตามกรอบวินัยการคลัง และดำเนินการตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปี 2567-2570) ที่ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 ต้องลดสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณ ไม่ให้เกิน 3% ต่อจีดีพี ขณะที่ปัจจุบันการจัดเก็บรายได้ มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 14% ของจีดีพี ควรขยับขึ้นไปเป็นระดับ 16-17% ต่อจีดีพี
“แผนการปฏิรูประบบภาษีของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ผ่านเห็นชอบจากกระทรวงการคลังแล้วกว่า 20 รายการ แต่วันนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเราจะทำอะไร ซึ่งทุกรัฐบาลที่เข้ามาไม่ว่าจากพรรคใด แผนปฏิรูปภาษีจะเป็นแผนแรก ที่กระทรวงการคลังต้องกางให้ดู ว่าแผนจัดเก็บรายได้ แผนรายจ่ายควรจะเป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่เอาไปให้ดูหมด ว่าคนที่ทำนโยบายจะดำเนินการอย่างไร” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวว่า เบื้องต้นในแผนการปฏิรูปภาษี จะมีการแบ่งช่วงเวลา บางมาตรการจะดำเนินการใน 2 ปี หรือภายใน 5 ปี เป็นต้น เช่น ที่ผ่านมามีการใช้มาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อกองทุน เพื่อช่วยสนับสนุนการลงทุนในตลาดทุนมานานหลายปีแล้ว มองว่าเป็นการช่วยคนรวยมากเกินไปหรือไม่ อาจจะต้องมาทบทวนวิธีนำค่าลดหย่อนหลาย ๆ รายการ ต้องมีการกำหนดเพดาน (แคป) วงเงินลดหย่อนสูงสุด ให้ผู้เสียภาษีเลือกรายการที่ต้องการหักลดหย่อนเอง เป็นต้น
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าภาษีจากการซื้อขายหุ้น ยังอยู่ในแผนการปรับโครงสร้างภาษี เพียงแต่รัฐบาลรักษาการอาจมีข้อจำกัดไม่สามารถดำเนินการได้ต่อ หรือหากจะปรับเป็นการเก็บภาษีกำไรจากเงินลงทุน (Capital Gain Tax) ก็สามารถดำเนินการได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งแผนการปรับโครงสร้างภาษี เพื่อสนับสนุนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนเรื่องเศรษฐกิจสีเขียว (ESG) สินค้าประเภทใดที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทำลายสุขภาพ อาจจะต้องจัดเก็บภาษีให้มากขึ้น
ส่วนการปรับโครงสร้างภาษีดังกล่าว จะส่งผลให้การจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 6 แสนล้านบาท ตามนโยบายของพรรคการเมืองหรือไม่นั้น ปลัดกระทรวงการคลัง เชื่อว่า การปฏิรูปภาษีจะมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้รัฐขึ้นอีกอย่างน้อยเกินครึ่ง
“หากรัฐบาลใหม่ต้องการปรับเป็น Capital Gain Tax เราก็พร้อมเปลี่ยน เพราะเราศึกษาควบคู่มาโดยตลอด แต่อาจต้องใช้เวลาเพิ่ม เพราะต้องทำระบบใหม่ แต่เราเชื่อว่ารูปแบบภาษีขายหุ้น ยังเหมาะกับตลาดทุนไทยมากกว่า ส่วนภาษีตัวอื่นๆ ต้องทำเป็น Step เพราะไม่ต้องการให้เศรษฐกิจช็อคจากการปฏิรูปภาษี” นายกฤษฎา กล่าว