CK บวก 4% ลุ้นปีนี้รายได้ก่อสร้างโตแรง 67% พ่วงแบ็กล็อกแน่น 1.5 แสนล้าน

CK บวก 4% ลุ้นปีนี้รายได้ก่อสร้างโตแรง 67% จากปีก่อนทำได้ 1.8 หมื่นล้านบาท พ่วงแบ็กล็อกแน่น 1.5 แสนล้านบาท โบรกแนะซื้อเป้า 24 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(17 ก.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ณ เวลา 12:16 น. อยู่ที่ระดับ 21.00 บาท บวก 0.90 บาท หรือ 4.48% ราคาสูงสุด 21.20 บาท ราคาต่ำสุด 20.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 78.77 ล้านบาท 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า CK ในปี 2566 จะมีรายได้ค่าก่อสร้างเติบโตถึง 67% จากปีก่อนที่มีรายได้ 18,096.70 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนคือมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) ปัจจุบันที่สูงถึง 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) จากการรวมโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง สปป.ลาว ที่มีการเร่งรัดงานอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน

ขณะที่กำไรปกติช่วงไตรมาส 2/2566 (เม.ย.-มิ.ย. 2566) จะเติบโตกว่าไตรมาส 1/2566 โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้ค่าก่อสร้าง แต่ลดลงหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการที่บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ที่พลิกขาดทุน ราคาหุ้นปรับลดลง 9% ในรอบ 1 เดือน เพราะความกังวลนโยบายการเมืองด้านพลังงาน

ส่วนผลประกอบการทั้งปี 2566 บล.ดาโอ ปรับลดประมาณการกำไรปกติของ CK ลง 12% เป็น 1,400 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 55% จากปีก่อน) เพราะประเมินว่าแม้ CK มีแนวโน้มรายได้จากการก่อสร้างเติบโตสูงในปี 2566 แต่ผลประกอบการอาจถูกกดดันบางส่วนจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบางที่สูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2-4/2566 เพราะ CK ต้องมีการสำรองเงินล่วงหน้าไปก่อนในช่วงต้น รวมถึงส่วนแบ่งกำไรของ CKP ที่จะถูกกดดันจากสภาวะเอลนีโญ (การเปลี่ยนแปลงในอุณหภูมิผิวน้ำทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก โดยอุ่นขึ้นหรือเย็นลงผิดปกติ)

ด้านนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น ประเมินว่าค่าแรงที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 10% จะส่งผลกระทบต่อกำไร CK ลดลงราว 7-10% แต่ผลกระทบอาจน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะ CK จ่ายค่าจ้างสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำทั่วไป และมีโอกาสที่นโยบายดังกล่าวจะมีมาตรการชดเชยช่วยผู้ประกอบการด้วย

อย่างไรก็ตาม คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CK แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 24 บาท จากเป้าเดิมที่ 26 บาท เพื่อสะท้อนผลกระทบจากส่วนแบ่งกำไร CKP ที่เติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น แต่อัตรากำไรปกติที่ปรับลดคาดการณ์ลงเหลือ 1,400 ล้านบาทดังกล่าว ก็ยังเป็นอัตราที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี และจะเร่งตัวมากขึ้นจากแบ็กล็อกที่ทำสถิตินิวไฮ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล

Back to top button