จังหวะซื้อ PTTGC โบรกมองปี 66 พลิกกำไร 9 พันล้าน เป้าสูง 47.31 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ก.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ณ เวลา 15:21 น. อยู่ที่ระดับ 38.75 บาท ลบ 1.75 บาท หรือ 4.32% สูงสุดที่ระดับ 40.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 38.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 870.59 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประเมินกำไรปี 66 ของ PTTGC จะพลิกมากำไรสุทธิ 9 พันล้านบาท จากไม่มีปิดซ่อมใหญ่ทั้งโรงกลั่นและโรงโอเลฟินส์ รวมถึงคาดไม่มี Stock loss ก้อนใหญ่

ขณะที่การเปิดประเทศของจีนหนุนความต้องการใช้พลาสติก กระตุ้นความต้องการ หรือ Demand ปิโตรเคมีได้ดี โดยสินค้าหลักอย่างโพลีเอทิลิน หรือ PE จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของจีน ระยะสั้นคาดกำไรไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 4 ฟื้นตัวทุกไตรมาสอย่างต่อเนื่อง โดยโมเมนตัมการฟื้นตัวหลักจะอยู่ในครึ่งปีหลัง หลังผ่านช่วง Supply ใหม่เข้ามากสุดในครึ่งปีแรกแล้ว

โดยปัจจุบันซื้อขายบน P/BV ที่ 0.6 เท่า ต่ำสุดในรอบหลายปี ถือเป็นจุดเก็งกำไรได้ จากจีนมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภาคอสังหาฯ และลดดอกเบี้ย บวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง แม้ทิศทางครึ่งปีแรก กำไรมีแรงกดดันจาก Supply ใหม่เข้ามามาก

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มองความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การเมือง ภายในประเทศทำให้หุ้นในกลุ่ม Global play มีความน่าสนใจมากกว่า โดยเฉพาะ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ที่คาดว่าผลประกอบการจะทยอยฟื้นตัวขึ้นได้ตลอดทั้งปี หลังผู้บริหารยืนยันปริมาณก๊าซอีเทนราคาถูก จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการใช้ก๊าซอีเทนเป็นวัตถุดิบจะเพิ่มขึ้นจาก 36% ในครึ่งแรกของปี 66 เป็น 40% ในครึ่งหลังของปี 2566

ทั้งนี้ น่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้ 4-5 พันล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ผู้บริหารเผยว่าระบบทุ่นรับน้ำมันดิบ (SPM) น่าจะกลับมาดำเนินงานได้ภายในปีนี้ โดยขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการซ่อมแซมแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/66 แนะนำ PTTGC ราคาพื้นฐาน 46.7 บาท

โดยจากข้อมูล Refinitive consensus 18 โบรกเกอร์ ประเมินรายได้ PTTGC ปีนี้ที่ 590,357.06 ล้านบาท กำไรสุทธิ 11,859.73 ล้านบาท ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 47.31 บาท

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปัจจุบันราคาหุ้น PTTGC ที่ลดลง ล่าสุดสะท้อนความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยไปแล้ว โดยมองว่ามูลค่าหุ้นที่ไม่แพงและการฟื้นตัวของกําไรในครึ่งหลังของปี 66 ถึงปี 67 ยังคงสดใสอยู่ ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของอุปสงค์จากจีนที่จะมาช่วยหนุนการฟื้นตัวของอัตรากําไรทั้งในธุรกิจโพลีเมอร์และโรงกลั่นฯ ขึ้นได้ จะช่วยหนุนราคาหุ้นขึ้นและเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีสำหรับนักลงทุนระยะยาว จึงได้เพิ่มคำแนะนําจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน  43 บาท

ทั้งนี้ แม้ว่าผลงานที่ไม่สู้ดีในธุรกิจต้นน้ำทำให้ภาพรวมไตรมาส 2/66 ไม่สดใส คาดค่าการกลั่นลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ตามส่วนต่างราคาน้ำมันชนิดกลางที่ลดลง (ดีเซลเชื้อเพลิงอากาศยาน) ฉุดจากการส่งออกจากรัสเซียและจีนที่สูงขึ้น แม้สัญญาณการฟื้นตัวของส่วนต่างราคาปิโตรเคมี (หลัก ๆ คือโพลีเมอร์) ชัดเจนขึ้นในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะกดดันส่วนต่างราคาต่อเนื่องในไตรมาส  2/66 แต่มองว่าจะผ่านพ้นช่วงที่แย่ที่สุดไปได้ภายในไตรมาสนี้ เพราะอุปสงค์จากจีนที่ฟื้นตัวจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของส่วนต่างราคาทั้งในธุรกิจโพลีเมอร์และโรงกลั่นขึ้นภายในครึ่งหลังปี 66 จึงมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อภาพรวมปี 67-68 หนุนจากการเติบโตของอุปสงค์ต่อโพลีเมอร์ (PE, PP) ที่คาดว่าจะมีปริมาณสูงกว่ากําลังการผลิตใหม่ทั่วโลกภายในปี 67