EGCO ร่วง 6% โบรกแนะ “ขาย” หั่นเป้าเหลือ 120 บ. หวั่นกำไรปี 66 ลด 24%

EGCO ร่วง 6% โบรกแนะนำเป็น “ขาย” ปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 120 บาท มองกำไรปี 66 ลดลง 24% จากโครงการที่ซื้อกิจการเข้ามาใหม่และความล่าช้าในการพัฒนาโรงไฟฟ้าใหม่ ยังคงไม่น่าสนใจแม้ซื้อขายที่ระดับราคาต่ำแล้ว แต่มีกำไร และ ROE ที่ลดลงปรับราคาเป้าหมายลงหนัก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ก.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ล่าสุด ณ เวลา 12:03 น. อยู่ที่ระดับ 129.50 บาท ลบไป 8.00 บาท หรือลงไป 5.82% สูงสุดที่ระดับ 135.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 129 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 387.78 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จํากัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (25 ก.ค.66) ว่าทางฝ่ายวิจัยปรับลดราคาเป้าหมายปี 2566 สำหรับ EGCO ลงเหลือ 120 บาท จากเดิม 275 บาท มีเหตุผล 4 ประการดังนี้

1) ทางฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรลง 14-18% ในปี 2566-2568 จากอัตรากำไรที่ต่ำกว่าคาดจากโครงการที่เพิ่งซื้อกิจการเข้ามา

2) ผลกระทบจากความล่าช้าในการก่อสร้างและเงินลงทุนที่สูงกว่าคาดในโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Yunin

3) มูลค่าของโครงการเดิมในมือลดลงตามประสิทธิภาพที่ถอย และอายุสัญญาที่เหลือน้อยลง และ 4) มองว่า EGCO มีศักยภาพในการเติบโตกำลังการผลิตจำกัดหลังปี 2568 ดังนั้นแม้ราคาหุ้นจะอยู่ในระดับ valuation ที่ต่ำแล้วก็ลดลงและอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ต่ำเป็นปัจจัยตาม แต่มองว่ากำไรที่ลดลงนั้นกดดัน ROE ของบริษัทฯ จึงปรับลดคำแนะนำ EGCO เป็น “ขาย” จากเดิมเป็น “ซื้อ” เนื่องจากไม่มีปัจจัยหนุนราคาหุ้นและอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 5% นั้นดูน่าสนใจน้อยลงท่ามกลางอัตราต่อกเบี้ยที่สูงในปัจจุบัน

ทั้งนี้ คาดกำไร EGCO ปี 2566 ลดลง 24% และในปี 2567 ลดลง 3% ถัดมาในปี 2568 ลดลง 3% จากผลกระทบของภาวะเอลนีโญต่อโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 12% ของกำลังการผลิต และอัตราทำไรพิเศษที่โรงไฟฟ้าก๊าซได้ในช่วงวิกฤตราคาพลังงานทยอยลดลง

รวมทั้งความสามารถการทำกำไรที่ลดลงของโรงไฟฟ้าที่มีอายุมากขึ้น โดยการลดลงหนักในปี 2566 เป็นเพราะฐานที่สูงจากการที่ EGCO ได้อัตรากำไรพิเศษในช่วงราคา LNG พุ่งสูงขึ้น จากโรงไฟฟ้าก๊าซ Paju และสหรัฐฯ และนโยบายเปลี่ยนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซเป็นน้ำมันจาก IPP ในไทย เมื่อปี 2565 คาดกำไรจะลดลงหนักอีกครั้งที่ 13% ในปี 2569 หลังจากสัญญาของโรงไฟฟ้าถ่านหิน Quezon อยู่ที่ 8% ของกำลังการผลิตหมดอายุในปลายปี 2568

โดยยังใช้สมมติฐานว่า Quezon จะไม่ได้ต่อสัญญาแม้ EGCO กำลังเจรจากับรัฐบาลฟิลิปินส์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจนท่ามกลางนโยบายทั่วโลกที่มีแนวโน้มลดการใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน

สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังลมนอกชายฝั่ง Yunin ในเกาหลีได้ มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 160 เมกะวัตต์ ที่ล่าช้าและใช้ตันทุนมากกว่าคาด ทำให้ EGCO ต้องบันทึกการด้อยค่า 7.3 พันล้านบาท (14 บาท/หุ้น) ในปี 2565 นอกจากผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่าแล้ว ยังปรับลดมูลค่าจาก Yunin เหลือ 12 บาทต่อหุ้น EGCO จาก 19 บาทบนการประเมินผลตอบแทนจากโครงการลงเหลือ 3% EIRR จาก 9% ในบทวิเคราะห์นี้นำมูลค่าจากโอกาสการพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหิน Quang-Tri ในเวียดนาม 44.7 ออกจากประมาณการ หลังกำลังการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินถูกปรับลงอย่างมากในแผนพัฒนาพลังงานล่าสุดของประเทศเวียดนาม

เรามองว่าราคาหุ้นของ EGCO ที่เทียบเท่ากับค่า PE อยู่ที่ 8 เท่า ในปี 2566 นั้นยังไม่น่าสนใจ บนแนวโน้มกำไรลดลงและอัตราการจ่ายเงินปันผลต่ำ ซึ่งมองศักยภาพการขยายกำลังการผลิตที่จำกัด จากกระบวนการดำเนินการที่ช้ากว่าคู่แข่ง และทิศทางการลงทุนที่ไม่ชัดเจนในมุมมอง อีกทั้งมองว่ากำไรจากโครงการใหม่จะไม่เพียงพอที่จะชดเชยกำไรจากโครงการที่กำลัง กรุณาอ่านรายงานฉบับสมบูรณ์จะหมดอายุ ซึ่งมีอัตรากำไรสูง

Back to top button