ANAN เด้งแรง 8% รับความหวัง “แอชตัน อโศก” ไม่ต้องรื้อ!
ANAN เด้งแรง 8% รับความหวัง “แอชตัน อโศก” มีทางออกไม่ต้องรื้อ! หลังเช้านี้ชี้แจงเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ฟาก “กทม.” ยันไม่ต้องรื้อถอนแค่ปรับแก้-ขออนุญาตก่อสร้างใหม่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(3 ส.ค.66) บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ล่าสุด ณ เวลา 11:42 น. อยู่ที่ระดับ 0.85 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 7.59% สูงสุดที่ระดับ 0.87 บาท ต่ำสุดที่ 0.79 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 95.93 ล้านบาท
นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ราคาหุ้น ANAN ที่ปรับตัวขึ้นมาในวันนี้ คาดนักลงทุนรับรู้ข่าวลบไปพอสมควรแล้ว บวกกับ ANAN ที่มีการ Take Action เร็ว
โดยล่าสุดก็มีการออกหนังสือชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหา “คดีคอนโดแอชตัน อโศก” ทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่นขึ้นมาว่าจะสามารถแก้ไขได้ ขณะเดียวกันวันนี้ กทม. มีการแถลงข่าว กรณี แนวทางการดำเนินการกับคอนโดแอชตัน อโศก มองว่าจะมีทางออกให้กับเรื่องวดังกล่าวได้
ขณะที่เช้าวันนี้ ANAN ออกหนังสือชี้แจงกรณีคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดต่อโครงการแอชตัน อโศกว่า บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด มีแนวทางแก้ไขปัญหา ดังนี้
1.แนวทางแก้ไขกรณีใบอนุญาตก่อสร้าง บริษัทกำลังเร่งพิจารณาหาแนวทางแก้ไขซึ่งมีอยู่หลายแนวทางที่มีความเป็นไปได้ คือ
-ยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่ โดยการซื้อ หรือหาที่ดินเพิ่มเติม
-เสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่าน สำนักการโยธากรุงเทพมหานครไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ไปยังคณะรัฐมนตรี
-เสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่าน รฟม. เสนอผ่านกระทรวงคมนาคม ไปยังคณะรัฐมนตรี
-ประสานเจ้าของเดิม ให้ยื่นทบทวนสิทธิ์ที่ดินทางเข้า-ออกจาก รฟม. ให้ทบทวนสิทธิที่ดินเดิมก่อนเวนคืน ควรให้สิทธิ์ทางเข้า-ออกอย่างน้อย 12-13 เมตร เพื่อให้สามารถขึ้นอาคารสูงและขนาดใหญ่พิเศษได้
-ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณาพิพากษาคดีใหม่ เนื่องจากมีพยานหลักฐานใหม่ ทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป
2.แนวทางช่วยเหลือ เรื่องการผ่อนชำระสินเชื่อของเจ้าของร่วมที่มีภาระผูกพันกับสถาบันการเงิน ช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เร่งประสานงานกับสถาบันการเงินหลายแห่งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการผ่อนชำระสินเชื่อ โดยบริษัทฯ ขอให้สถาบันการเงินพิจารณาแนวทางด้านการผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และขอให้สถาบันการเงินพิจารณาแนวทางสำหรับมาตรการลดภาระในการผ่อนชำระอื่นๆ
ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลพิจารณาจากสถาบันการเงิน
3.ประเด็นชี้แจงอื่นๆ เพิ่มเติม
3.1 การออกใบอนุญาตเปิดใช้อาคารแบบมีเงื่อนไข
ประเด็นเรื่องข้อสงวนที่ กทม. กำหนดว่าบริษัทฯ จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อบริษัทฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง หากผลการพิจารณาของศาลปกครองเป็นที่สุดว่าโครงการดำเนินการขัดต่อกฎหมายควบคุมอาคาร ข้อเท็จจริงดังกล่าวปรากฎอยู่เพียงในใบรับรองการก่อสร้าง (อ.6) ซึ่งเอกสารดังกล่าว กทม.ออกให้บริษัทฯ หลังจากที่โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและได้มีการขายให้กับลูกค้าแล้ว นอกจากนี้ ในใบอนุญาตอื่น ที่กทม. ออกให้แก่บริษัทฯ ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีข้อความทำนองนี้ปรากฎอยู่ในใบอนุญาตแต่อย่างใด และบริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะร่วมแก้ปัญหาไปพร้อมกับ กทม. ต่อไป
3.2 เงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ และรับทราบสถานะคดี
บริษัทฯ ได้แจ้งเรื่องของคดีที่อยู่ในศาลปกครอง นับแต่ที่ลูกค้าได้ทำการซื้อขายห้องชุด กับบริษัทฯ ตามลำดับดังนี้
– ในช่วงแรก ที่บริษัทฯ ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาจะซื้อจะขาย บริษัทฯ ได้ขอขยายระยะเวลาโอนกรรมสิทธิ์ โดยแจ้งเรื่องคดีของโครงการให้ลูกค้าทราบ พร้อมทั้งเสนอแนวทาง 3 ข้อให้ลูกค้าพิจารณา คือ (1) การยกเลิกสัญญา และคืนเงิน (2) การย้ายโครงการตามที่บริษัทฯ กำหนดไว้ (3) หากถือสัญญาไว้ต่อจนถึงครบกำหนดการขยายระยะเวลา (26 มีนาคม 2562) จะได้รับส่วนลด ณ วันโอน ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินที่ชำระมาแล้วทั้งหมด โดยสำหรับลูกค้าที่เลือกรับโอนกรรมสิทธิ์ บริษัทฯ ได้ส่งหนังสือขอบคุณ พร้อมทั้งแจ้งสถานะเกี่ยวกับคดีของโครงการให้รับทราบด้วย (จากลูกค้าจองทั้งหมด 766 ราย มีลูกค้ายกเลิกสัญญาทั้งหมด 244 ราย, ย้ายโครงการ 4 ราย และ อยู่รอโอนกรรมสิทธิ์ 518 ราย หลังจากที่บริษัทฯ ได้มีการแจ้งให้ลูกค้าทราบทั้ง 3 แนวทาง)
– ในเวลาต่อมา บริษัทฯ ได้จัดส่งเอกสารแจ้งสถานะคดีของโครงการ ในหนังสือนัดโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ไปยังลูกค้าทุกราย ซึ่งได้รับการลงนามการตอบรับมาเป็นส่วนใหญ่
– สำหรับลูกค้าที่ซื้อและทำสัญญาจะซื้อจะขาย ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป ได้รับทราบสถานะคดี ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ในบันทึกแนบท้ายสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด
ดังนั้น ลูกค้าของโครงการจึงรับทราบสถานะของคดีมาโดยตลอด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ใคร่ขอยืนยันว่า บริษัทฯ จะร่วมเคียงข้างเจ้าของร่วมทุกท่าน และกำลังเร่งดำเนินการแสวงหาทางออกอย่างสุดความสามารถ โดยจะแจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานต่างๆ ให้ท่านเจ้าของร่วมทราบโดยเร็ว
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงกรณีแนวทางการดำเนินการกับโครงการแอชตัน อโศกว่า โครงการแอชตัน อโศก ไม่ถึงขั้นรื้อถอนอาคาร เพียงให้บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ยื่นหนังสือขอใบรับแจ้งอนุญาตก่อสร้างใหม่กับ กทม.ภายใน 30 วัน
ในวันพรุ่งนี้ กทม.จะส่งหนังสือเพิกถอนใบรับแจ้งอนุญาตก่อสร้างโครงการแอชตัน อโศก ให้กับสำนักงานเขตวัฒนาที่รับผิดชอบดูแลโครงการในพื้นที่ และให้ส่งแจ้งไปยังบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ตามคำสั่งศาลปกครอง จากนั้นจะเปิดให้ทางบริษัทยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่
แต่หาก อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก ไม่สามารถส่งหนังสือแจ้งขอยื่นใหม่ได้ทันก็สามารรถขยายเวลาเป็น 120 วันได้ พร้อมรายละเอียดการขอขยายเวลา ซึ่งขณะนี้ กทม.ยังไม่ติดต่อกับทาง อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก เนื่องจากวันนี้เพิ่งเปิดทำการหลังหยุดยาว
นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม.ยืนยันว่าได้ออกใบรับแจ้งอนุญาตก่อสร้างโครงการแอชตัน อโศก อย่างถูกต้องตามระเบียบ เนื่องจากก่อนหน้านี้ อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก ยื่นอุทรณ์ขอออกใบรับแจ้งอนุญาตก่อสร้างฯ เนื่องจากการใช้เวลาออกใบอนุญาตใช้เวลานาน ขณะที่ทาง อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก มีรายละเอียดการก่อสร้างมาอย่างถูกต้องตามเงื่อนไขของกทม.ครบถ้วน
สำหรับลูกบ้านที่พักอาศัยโครงการ แอชตัน อโศก ยังสามารถพักอาศัยและใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมถึงการใช้ทางออกเดิมก็ยังใข้ได้ตามปกติ โดยเจตนารมณ์ของศาล มองจากคำตัดสิน ศาลฯเพียงต้องการให้การตีความเจตนารมณ์ของกฎหมายที่บัญญัติไว้ให้การขออนุญาตก่อสร้างถูกต้อง ไม่เกี่ยวข้องกับการเพิกถอนการใช้ทางออกที่ทับซ้อนพื้นที่เวนคืนของ รฟม.และ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เนื่องจากอาคารไม่มีความเสี่ยงเรื่องตึกถล่ม หรือการเข้าออกของรถดับเพลิง
อย่างไรก็ตาม ทาง กทม. เสนอแนวทางในการเปิดพื้นที่ทางออกของโครงการ อย่างถูกต้องทางซอยสุขุมวิท 19 เบื้องต้นตามแปลงระวางที่ กทม.มีอยู่ที่ 20.5 เมตร เป็นไปตามกฎที่ระบุทางออกสู่ถนนอย่างน้อย 18 เมตร แต่อย่างไรก็ตาม กทม.เตรียมเข้าวัดระยะพื้นที่ซอยสุขุมวิท 19 อีกครั้งเพื่อความถูกต้องของระยะห่าง ไม่ให้ซ้ำรอยกรณีรื้อถอนโครงการในซอยร่วมฤดี นอกจากนี้ ยังมีฝั่งทางออกฝั่งสุขุมวิท 21 ที่เชื่อมกับถนนอโศก ก็มีความกว้างที่เพียงพอตามข้อกฎหมายของกทม.
ด้านค่าใช้จ่ายในการซื้อที่ดินเพื่อเปิดทางออกใหม่ให้กับโครงการแอชตัน อโศก นั้น กทม.คงไม่ต้องร่วมรับผิดชอบค่าใข้จ่ายดังกล่าว เพราะ กทม.ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องในการออกใบรับแจ้งอนุญาตก่อสร้างให้กับผู้พัฒนาโครงการ แต่เป็นผู้พัฒนาโครงการต้องรับผิดชอบในส่วนนี้เอง
พร้อมกับ กทม.จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกใบรับแจ้งอนุญาตก่อสร้างโครงการแอชตัน อโศก เพื่อความโปร่งใสในกระบวนการทำงาน