AAV ดีดบวก 3% เก็ง Q2 กำไร 255 ล้าน ผู้โดยสารพุ่ง-บัตรแพงหนุน แนะซื้อเป้า 3.70 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ส.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ณ เวลา 16:10 น. อยู่ที่ระดับ 2.68 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.08% สูงสุดที่ระดับ 2.68 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.58 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 75.25 ล้านบาท

โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) แนะนำ เป็นโอกาสซื้อสะสมหุ้นบริษัท เอเชียเอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ราคาเป้าหมาย 3.70 บาท โดยประเมินว่าผลประกอบการช่วงไตรมาส 2/66 (เม.ย.-มิ.ย. 2566) จะมีกำไรปกติ (กำไรก่อนหักภาษีและผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) ที่ 255 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นไตรมาส 2 แรกที่ AAV มีกำไรปกติในรอบ 6 ปี นับแต่ปี 2560 และดีขึ้นจากไตรมาส 1/66 ประมาณ 38% เพราะปกติในช่วงไตรมาส 2 ของทุกปีจะอยู่นอกฤดูท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น)

ทั้งนี้มีปัจจัยหลักจากการที่อัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load factor) เฉลี่ยสูง 89% และราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,700 บาทต่อที่นั่ง (สูงกว่าระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ 25%) และคาดว่ารายได้ต่อปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) จะสูงกว่าต้นทุน ASK เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน และส่วนต่างน่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 (ก.ค.-ธ.ค. 2566) ตามการฟื้นตัวของจำนวนผู้โดยสาร

ส่วนกรณีที่กรมสรรพสามิต เริ่มกลับมาจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากเชื้อเพลิงอากาศยานสำหรับเที่ยวบินในประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2566 ในอัตรา 4.726 บาทต่อลิตร จากอัตราก่อนหน้าอยู่ที่ 0.20 บาทต่อลิตร คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกำไรของ AAV ประมาณ 600 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว AAV จะส่งผ่านต้นทุนดังกล่าวให้แก่ผู้โดยสาร ด้วยการปรับขึ้นค่าโดยสารประมาณ 100 บาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 8% หากเทียบกับราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยที่ 1,200 บาทต่อที่นั่ง ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 นอกจากนี้สมาคมสายการบินแห่งประเทศไทยก็กำลังเจรจากับกระทรวงการคลังเพื่อกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตฯ ใหม่ที่ต่ำลง บล. ฟินันเซีย ไซรัสฯ จึงคาดว่า การขึ้นภาษีดังกล่าวจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย