ดีเอสไอ อายัดเงิน 220 ล้าน “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” เยียวยาคนเสียหาย STARK
ดีเอสไอ ไล่ล่าอายัดทรัพย์ “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” ปมโกงหุ้น STARK ทั้งที่ดินและเงินในเครดิตสวิส 220 ล้าน สอบพยานแล้วกว่า 70 ปาก จ่อเรียก “ดีลอยท์” มาให้ข้อมูลหากพบเอี่ยวในคดี
วันที่ 11 ส.ค. 2566 น.ส.พิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวว่า ความคืบคืบหน้าของคดี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ขณะนี้ปัจจุบันได้มีการทยอยเรียกรับทราบข้อกล่าวแล้วแล้ว 4 ราย โดยยังเหลืออีก 1 ราย คือนายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม โดยพนักงานสอบสวนนัดหมายให้เข้าพบในช่วงสัปดาห์หน้า ส่วนพยานหลักฐานที่อยู่กระบวนการสืบสวนของดีเอสได้มีการเรียกพยานสอบปากคำไปแล้ว 70 ปาก แบ่งกลุ่มพนักงานบริษัท กลุ่มผู้สอบบัญชี เป็นต้น เพื่อให้ได้ข้อมูลมาประกอบการสอบสวน
ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์สินแล้วบางส่วนก่อนหน้านี้ โดยได้มีการอายัดทรัพย์ ของนายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการบริษัท STARK ขณะนี้ได้อายัดที่ดินไว้ทั้งหมดแล้ว ส่วนมูลค่าอยู่ระหว่างประเมิน รวมถึงอายัดบัญชีที่บริษัทหลักทรัพย์เครดิตสวิสมูลค่า 220 ล้านบาท ซึ่งการอายัดทรัพย์สินดังกล่าวจะมีประโยชน์กับผู้เสียหายในคดีที่ต้องชดใช้ทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวงไป ทั้งนี้ ดีเอสไอ จะพยายามเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานในทุกด้าน ซึ่งในเรื่องการติดตามตัวนายชนินทร์ตอนนี้ ดีเอสไอได้ประสานความร่วมมือต่อเนื่องกับองค์การตำรวจสากลและได้แจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการเกี่ยวกับการเพิกถอนหนังสือเดินทางของเจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ก่อนหน้านายวนรัตน์ ตั้งคารวคุณ กรรมการและผู้บริหาร ของ STARK หลังจากที่ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้มีการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและประสงค์จะไปให้การแก้ข้อกล่าวหาในชั้นถัดไป ส่วนคำให้การของผู้ต้องหารายอื่นๆ เช่น นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตประธานกรรมการฝ่ายการเงินของบริษัท STRAK และน.ส.ยสบวร อำมฤต เลขานุการของนายชนินทร์ ที่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนหน้านี้ คำให้การทั้งหมดยังคงอยู่ในสำนวนคดีเพื่อการตรวจสอบ ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างรอผู้ต้องหารายอื่นๆที่จะต้องเข้าให้ปากคำ ทำให้ยังมีเนื้อหาบางส่วนที่ยังไม่ได้รับครบถ้วน จึงต้องขอเวลาให้พนักงานสอบสวนได้พิจารณาก่อน
น.ส.พิชญา กล่าวว่า สำหรับจะมีการเรียก ‘ดีลอยท์’ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ในการสอบบัญชีของ STARK นั้น โดยทาง ดีเอสไอ ยังขอไม่ลงรายละเอียดในสำนวนคดี แต่หากพบว่าผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะสอบสวน โดยการสอบสวนตอนนี้ขั้นตอนทุกอย่างอยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ดีจากที่ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ที่มาร้องทุกข์ตอนนี้มีทั้งหมด 10 ราย มีบุคคล เป็นนิติบุคคล 5 ราย และเป็นบุคคลธรรดา 5 ราย โดยส่วนของบุคคลธรรมดามีการออกหมายเรียกและหมายจับ ส่วนของนิติบุคคลนั้นอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ซึ่งยังไม่ได้มีการเรียกมาแต่อย่างใด.