“เศรษฐา” โต้ “ชูวิทย์” ปมภาษีที่ดินสุขุมวิท ยัน “SIRI” ทำตามกฎหมาย
“เศรษฐา ทวีสิน” ยัน “แสนสิริ” บริหารงานโปร่งใส แฉถูก “ชูวิทย์” ขู่ซื้อที่ดินสุขุมวิท 24 สองพันล้าน
วันที่ 18 ส.ค. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความพร้อมคลิปชี้แจงผ่านเฟสบุ๊ค โดยระบุว่า ผมเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และอดีตผู้บริหารบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ในการทำธุรกิจของผม เป็นที่รับทราบและยอมรับของสังคมมาโดยตลอด วันนี้ผมออกมาพูดในฐานะที่เคยเป็นผู้บริหารบริษัทแสนสิริ และในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
บริษัทแสนสิริผ่านพ้นวิกฤตมาหลากหลายรูปแบบ ทีมงานทุกคนบริหารงานอย่างโปร่งใสในรูปแบบของคณะกรรมการตามข้อบังคับของบริษัทและตลาดหลักทรัพย์ เราทำงานตามหลักธรรมาภิบาล แสนสิริเติบโตในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างมั่นคงเข้มแข็ง ไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหา หรือ แม้กระทั่งตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ในการทำงานและการประกอบการของบริษัทแต่อย่างใด
ผมออกมาวันนี้เพื่อให้ข้อเท็จจริง และตอบคำถามของสังคมในกรณีการจัดซื้อที่ดินของแสนสิริและเรื่องนอมินี ในขณะที่ผมเป็นผู้บริหาร ผมยืนยันว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันการซื้อขายที่ดินเพื่อประกอบการบริษัทเราดำเนินการด้วยความถูกต้องตามกฎหมายในทุกขั้นตอน ไม่เคยมีวิธีการนอกระบบกฎหมาย เพื่อเบียดบังผลประโยชน์ของรัฐ หรือแสวงหาประโยชน์เป็นการส่วนตัว และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาในทุกกรณีที่คุณชูวิทย์นำมากล่าวอ้าง ซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนให้เกิดความเสียหาย
ในทุก Episode ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ นำมาสร้างกระแสนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ดินแปลงสารสิน หรือที่ดินซอยทองหล่อเป็นเรื่องเเบบเดียวกัน คุณต้องยอมรับว่าแสนสิริในฐานะผู้ซื้อทำธุรกรรมกับผู้ขายรายต่างๆ โดยชำระค่าที่ดินตามราคาตลาดที่สมเหตุสมผล สัญญาซื้อขายเป็นสัญญาต่างตอบแทน ผู้ซื้อและผู้ขายมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ซึ่งกันและกัน รวมทั้งหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทแสนสิริ คือ ผู้ซื้อ ซึ่งไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ กระบวนการบริหารภายในของฝ่ายผู้ขายได้ในทุกขั้นตอน ฝั่งผู้ซื้อ ไม่มีนอมินี ไม่มีการปล่อยกู้ให้ผู้ขาย
และประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเป็นจำนวนเงิน 1,000 ล้านบาท มีหลักฐานชัดเจน ผมยืนยันไม่มีการทำสัญญากู้ อีกทั้งไม่มีการสมคบคิดใดๆ และไม่เคยมีเงินทอนใดๆกลับมาที่ผม หรือพนักงานแสนสิริคนไหนทั้งสิ้น แปลงโครงการคุณ บาย ยู มูลค่าที่ดินราคา 1,100,000 บาทต่อตารางวา เป็นราคาที่ถือว่าดีมาก ราคานี้ไม่มีเงินทอนให้ใครหรอกครับ ขอย้ำอีกครั้งว่า คุณชูวิทย์ต้องแยก ผู้ขาย กับ ผู้ซื้อให้ได้ อย่าบิดเบือน และแสนสิริไม่มีนอมินีแน่นอน หลังจากนี้คุณจะพูดเรื่องที่ดินอีกกี่แปลงก็ได้ คุณต้องแยกผู้ขาย กับผู้ซื้อให้ชัดเจน
คุณชูวิทย์ต้องใช้ความจริงที่ไม่บิดเบือน คุณโกรธเคืองที่บริษัทไม่ซื้อที่ดินคุณที่ซอย สุขุมวิท 24 เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เราตกลงกันจากราคา 2,000 ล้านเหลือ 1,800 ล้าน แต่ที่ดินคุณมีเงื่อนไขติดพันธ์กับบริษัทไรมอนแลนด์ แสนสิริไม่สามารถซื้อที่ดินที่มีนิติกรรมซ้อนได้ คุณไม่พอใจ แต่เพราะเงื่อนไขของที่ดินคุณเอง แสนสิริเป็นบริษัทมหาชน ผมทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด 100% และไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย และรวมถึงไม่ผิดจริยธรรมใดๆ ผ่านมา 10 เดือน ตั้งแต่ก.ย.ปีที่แล้ว
จนมาถึงเดือนก.ค.ที่ผ่านมาในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่ข่าวออกเรื่องมติพรรคเสนอชื่อผมในสภาเพื่อเป็น นายกรัฐมนตรี ผมโดนข่มขู่ คุณฝากข้อความผ่านคนใกล้ชิดของคุณมาสั่งให้ผมมัดจำเงิน เพื่อซื้อที่ดินของคุณ และทำ MOU แบบไม่มีเงื่อนไขในการซื้อขายที่ดินกับคุณ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด คุณไม่มีสิทธิ์มาข่มขู่ผม
คุณติดต่อผู้ใหญ่มากมายให้มาบอกผมว่าคุณจะแฉผม และทำทุกอย่างเพื่อให้ผมไม่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าจะให้ไม่แฉ ให้ผมตกลงซื้อที่ดินราคา 2,000 ล้านทันทีแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่งั้นคุณชูวิทย์จะเดินหน้า Discredit และด้อยค่าผมต่อไป คุณชูวิทย์บิดเบือนไปถึงเรื่อง Digital Wallet ทำให้ประชาชนเข้าใจว่านโยบายนี้จะเป็นการฟอกเงินผ่านทาง coin อะไรเลอะเทอะไปหมด ผมขอให้คุณชูวิทย์ อย่าได้เอาเรื่องนโยบาย Digital Wallet ของพรรคเพื่อไทยมาโจมตีอย่างไม่มีหลักการ โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี มีผลประโยชน์ต่อประเทศอย่างมาก สามารถช่วยเหลือประชาชนได้เป็นจำนวนมากกว่า 50 ล้านคน
และเป็นนโยบายสำคัญที่สุดอันหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทันที ทำให้ประเทศนั้นสามารถพลิกฟื้นกลับมาอีกครั้ง และงบประมาณทั้งหมดจะถูกส่งตรงไปยังประชาชนทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
การที่ผมพูดความจริงในครั้งนี้ ผมรู้ว่าคุณชูวิทย์ต้องไม่พอใจและอาจจะไปฟ้องศาล ผมก็พร้อมที่จะนำพยานหลักฐานไปสู้คดีกับคุณชูวิทย์ในศาลต่อไป ผม เศรษฐา ทวีสินชีวิตผมตรวจสอบได้หมดทุกอย่าง ลูกผมมีงานที่ดีทำทุกคนผมไม่มีอะไรต้องห่วง ทุกคนเตือนผมว่าอย่าลงการเมือง มันเปลืองตัว ผมขอบคุณในความหวังดีของทุกคน
แต่ผม เศรษฐา ทวีสิน วันนี้ผมตัดสินใจเอง ผมเข้ามาตรงนี้เพราะอยากทำให้ประเทศชาติ และเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพิ่มรายได้ให้ประเทศ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากวันแรกที่ผมตัดสินใจจะทำจนถึงวันนี้ ผมมั่นใจที่จะทำเพื่อประเทศชาติเหมือนเดิม ผมย้ำอีกครั้งศัตรูของผมคือความยากจน และความไม่เสมอภาคของประชาชน เป้าหมายของผม คือ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคน.