ราคาทองปิดร่วง 27 ดอลล์ หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า นอกจากนี้ การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำด้วย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 27.2 ดอลลาร์ หรือ 2.54% ปิดที่ระดับ 1,049.60 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 54.5 เซนต์ หรือ 3.83% ปิดที่ 13.703 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 31.3 ดอลลาร์ หรือ 3.57% ปิดที่ 844.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่งลง 14.50 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 557.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดที่ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% อยู่ในช่วง 0.25-0.50% โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2006 ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้ลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
นอกจากนี้ การที่เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังหนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและสร้างแรงกดดันต่อสัญญาทองคำ โดยเมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น