มติสภาฉลุย “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย

“เศรษฐา ทวีสิน” จากพรรคเพื่อไทย ผ่านความเห็นชอบรัฐสภา เทคะแนน ทำให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30


วันที่ 22 ส.ค.  2566   ที่รัฐสภา  นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยวันนี้มีเรื่องด่วนที่สำคัญ คือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีการเปิดประชุมตั้งแต่ 10.00 น.

ในเวลาต่อมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เพื่อขอสนับสนุนการลงมติเป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมรัฐสภา เปิดให้สมาชิกรัฐสภา คือ สส. และ สว. อภิปรายรวม 5 ชั่วโมง

กระทั่งต่อมา ผลการลงคะแนนปรากฏว่าพบสมาชิกรัฐสภาได้มีการลงมติเสร็จสิ้น  โดยเห็นชอบ 482 เสียง แบ่งเป็น สว.152 สส.330 และ ไม่เห็นชอบ 165 เสียง แบ่งเป็น สว.13 เสียง สส.152 เสียง ขณะที่งดออกเสียง 81 เสียง แบ่งเป็น สว.68 เสียง สส.13 เสียง ส่งผลให้นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

สำหรับประวัติ นายเศรษฐา ทวีสิน  มีชื่อเล่นว่า “นิด” เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2506 ปัจจุบันอายุ 60 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการเงินจาก Claremont Graduate School สหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนในอดีตเคยดำรง ตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ข้อมูลจากเว็บไซต์ของแสนสิริเผยว่า ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปี 2566 เป็นเวลาทั้งหมด 17 ปี เศรษฐา ทวีสิน ดำรงตำแหน่งกรรมการในกว่า 30 บริษัท เช่น บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)  , บริษัท สิริพัฒน์ ทเวลฟ์ จำกัด, บริษัท สิริพัฒน์ อีเลฟเว่น จำกัด,  บริษัท แสนสิริ โฮลดิ้ง ทเวนที ทรี จำกัด บริษัท แสนสิริ ไชน่า จำกัด เป็นต้น

กระทั่งช่วงเดือนเมษายน 2566 นายเศรษฐา ได้ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งของแสนสิริ พร้อมโอนหุ้นทั้งหมดของ บมจ.แสนสิริ (SIRI) จำนวนกว่า 661,002,734 หุ้น ให้แก่นางสาวชนัญดา ทวีสิน ผู้เป็นบุตรสาว โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเตรียมพร้อมทำงานการเมืองในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย

โดย นายเศรษฐา นับว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ที่ทำงาน ทำให้เป็นที่สนใจของแกนนำพรรคเพื่อไทยจึงได้มีการทาบทามมาร่วมงาน อีกทั้งยังมีความรู้ความใจในด้านการบริหารงานเศรษฐกิจ จนในที่สุดได้รับความไว้วางใจจากการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในครั้งนี้

Back to top button