“เศรษฐา” เล็งขยายสนามบิน “สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต-เชียงใหม่” กระตุ้นท่องเที่ยว
“เศรษฐา” ลงพื้นที่ภูเก็ตดูสถานการณ์ท่องเที่ยว เล็งขยายสนามบิน“สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต-เชียงใหม่”รองรับคนเดินทางและกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันที่ 25 ส.ค. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจักรพงษ์ แสงมณี เดินทางลงพื้นที่จ.ภูเก็ต รับฟังปัญหาและอุปสรรคด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องความไม่เพียงพอในการให้บริการสนามบินสำหรับนักเที่ยว มีนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บ.ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ พร้อมเดินตรวจท่าอากาศยาน
จากนั้นให้สัมภาษณ์ ว่าตนมารับฟังข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเกี่ยวเรื่องการท่องเที่ยว เพราะสนามบินคือจุดแรกที่รับนักท่องเที่ยว อยากรับฟังปัญหาและดูว่าอนาคตอยากจะทำอะไร เพื่อไปร่างนโยบายตอบสนองความต้องการของท่าอากาศยาน รวมถึงเรื่องของนักท่องเที่ยว ซึ่งพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในระยะสั้น คือการท่องเที่ยว ที่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ต้องมีการรับฟังข้อมูลไปก่อนเพื่อเตรียมที่จะวางแผน
ซึ่งในปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาในประเทศไทยเพียง 30% ขณะที่ประเทศจีนเองเผชิญสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย จึงไม่พยายามที่จะสนับสนุนนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่เราต้องพยายามทำให้ง่ายต่อการเข้ามาในประเทศ
สำหรับจังหวัดภูเก็ตที่เป็นพื้นที่แรกในการลงพื่นที่นี้ ปฏิเสธไม่ได้เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งรายได้ใหม่ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จึงมาดูพื้นที้ก่อน และจะไปดูพื้นที่อื่นต่อไป และจะมีการพูดคุยเรื่องการขยายท่าอากาศยานทั้งภูเก็ต สุวรรณภูมิ และเชียงใหม่ ต่อไป
เมื่อถามว่าเมื่อลงหาเสียงที่จังหวัดพังงา มีการสอบถามถึงเรื่องการสร้างสนามบิน การลงพื้นที่ครั้งนี่จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า จะต้องปรึกษาสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อน เรื่องอยู่ในแม่แบบอยู่แล้ว ให้ติดตามกันต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากสนามบินภูเก็ต ใกล้จะถึงจุดที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดแล้ว
นายเศรษฐา ได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชนจ.ภูเก็ตถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยระบุว่า เลือกมาจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก วันนี้เราต้องลืมเรื่องพรรคการเมือง ต้องเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง พรรคเพื่อไทยไม่มีสส.จังหวัดภูเก็ตเลย แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ตกต่ำมากไม่ถึง 2% ในขณะที่ประเทศอื่นเจริญเติบโตไปมาก จึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุด โดยไตรมาส 4 เป็นไตรมาสที่สำคัญอย่างยิ่งของการท่องเที่ยวของไทย
การท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างดีที่สุดในภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเมื่อเช้านี้ตนกับคณะทำงานของพรรคเพื่อไทยได้ไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ต ที่ได้พูดคุยถึงปัญหาและแผนการขยายงาน ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชม. ยืนยันว่าไม่ได้มาสั่งการแต่มาฟังความคิดเห็น และจะรวบรวมความคิดเห็นไปประกอบการตั้งนโยบายที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
ขณะที่เลือกมาจังหวัดภูเก็ตที่ด่วนและเร็วขนาดนี้ เพราะเชื่อว่าไตรมาสที่ 4 เป็นไตรมาสที่พีคของการท่องเที่ยว ถ้าไม่มีการมาที่นี่หรือไม่มารับฟังปัญหาว่ารัฐบาลภายใต้พรรคเพื่อไทยอยากจะทำอะไรบ้าง ผู้ประกอบการจะไม่มีเวลาเตรียมตัว จึงอยากให้ทุกคนทราบว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยเราจะขับเคลื่อนท่องเที่ยวในทุกมิติ ไม่ใช่แค่เรื่องของสายการบิน ไม่ใช่แค่เรื่องของการท่าอากาศยาน เรื่องความปลอดภัย เรื่องความมั่นคง เรื่องการทำวีซ่าของประเทศต่างๆ ที่คาดว่าเราจะมีการยกเว้น บางประเทศก็อาจมีการยืดระยะเวลาการอยู่ การมาครั้งนี้จึงเป็นการให้ทุกภาคส่วนได้มีเวลาเตรียมตัวในการแพลนแผนการธุรกิจสำหรับไตรมาส 4 และต้นปีหน้า