โผครม.นิ่งแล้ว “เศรษฐา” คาดเห็นโฉมหน้าได้สัปดาห์นี้
“เศรษฐา” เผย คุยพรรคร่วมแล้ว ล่าสุดโผครม.ลงตัว เตรียมตัวสอบรายชื่อและคุณสมบัติ คาดเห็นโฉมหน้าได้ในสัปดาห์นี้
วันที่ 28 ส.ค. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องการจัดโผ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ว่า การจัด ครม. วันนี้นิ่งทั้งหมดแล้ว หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาพูดคุยกันจนดึก ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล โดยวันนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเข้ามารับรายชื่อทั้งหมด เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ขอให้รออีกนิด สำหรับการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา คาดการณ์ว่าจะทำได้เร็วกว่าช่วงกลางเดือนกันนายน จะพยายามเร่งให้เต็มที่ เพราะพรรคเพื่อไทยได้เตรียมการไว้หมดแล้ว
เมื่อถามถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นบุคคลจากภายนอก หรือ บุคคลในพรรค นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องให้เกียรติ และขอให้รอความชัดเจน พร้อมทั้งไม่ทราบเรื่องการคัดค้านชื่อพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ ซึ่งก็อ่านจากโซเชียลมีเดียบ้าง ยืนยัน หากเปิดรายชื่อออกมาจะไม่ผิดหวัง ขณะเดียวกันก็ขอให้ดูที่ผลงาน และมีภาวะผู้นำ ใครก็ตามที่พรรคร่วมรัฐบาลเลือกกันมาแล้วก็คงจะทำงานเต็มที่ให้กับประชาชน พร้อมย้ำว่า ขอให้อดใจรอ
เมื่อถามว่าจะสามารถนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้เมื่อไหร่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ส่วนตัวไม่ทราบขั้นตอน เป็นเรื่องของหน่วยงานที่ต้องตรวจสอบ เข้าใจว่าอาจจะใช้เวลา 2-3 วัน ส่วนจะทันวันที่ 1 กันยายนนี้หรือไม่นั้น ส่วนตัวไปก้าวล่วงไม่ได้
เมื่อถามต่อว่า ต้องเร่งให้ทันการประชุม UN ในช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้หรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ขอดูขั้นตอนก่อน เพราะตามมารยาทจะต้องเดินทางเยือนประเทศกลุ่มอาเซียนก่อนหรือไม่ เนื่องจากเป็นมือใหม่ จึงขอศึกษาก่อน แต่ยอมรับว่า เวทีประชุม UN เป็นเวทีใหญ่ที่จะมีโอกาสได้พบปะกับผู้นำทั่วโลก ซึ่งอาจจะได้หารือเรื่องธุรกิจการค้าไปด้วย
เมื่อถามว่าตำแหน่ง ครม. ทุกคนยอมรับได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มีทั้งคนสมหวัง และผิดหวัง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็พยายามเต็มที่ให้ทุกคนได้รับตำแหน่ง อีกทั้งยังมีตำแหน่งที่ปรึกษา เลขา ที่จะต้องมาร่วมกันทำงานจากทุกภาคส่วน เมื่อมีคนเยอะขึ้นเราก็จะทำงานได้ดีขึ้น.
นายเศรษฐา ยังเปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุมหลายคณะ รวมถึงรับฟังข้อเสนอแนะ และหาแนวทางแก้ไขด้านการบิน เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวร่วมกับผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ AOT และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน 8 แห่ง เพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า ไตรมาสที่ 4 จะเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนเตรียมตัว และในช่วงต้นเดือนตุลาคมจะเป็นวันชาติจีน เพื่อให้ภาคธุรกิจ และการท่องเที่ยวจับตลาดในเวลานี้ให้ได้ โดยเฉพาะสายการบินต่างๆที่ต้องมีความพร้อม และจะต้องครอบคลุมไปถึงความมั่นคง และความปลอดภัย ทั้งนี้การท่องเที่ยว คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีที่สุดในระยะสั้น ก่อนที่จะเริ่มเดินหน้านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในไตรมาสแรกของปีหน้า