RABBIT ปิดพุ่ง 16% ลุ้นครึ่งหลังรายได้อสังหาฯฟื้น-ปลดล็อกแรงกดดัน SINGER
RABBIT ปิดพุ่ง 16% ลุ้นปีครึ่งหลัง 66 ฟื้นตัว รับรายได้อสังหาฯหนุนเด่น-แรงกดดัน SINGER ลดลง พ่วงราคาหุ้นต่ำบุ๊ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(28 พ.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RABBIT ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 0.80 บาท บวก 0.11 บาท หรือ 15.94% สูงสุดที่ระดับ 0.87 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.74 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 356.76 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นที่ระดับ 1.10 บาท
ด้านแหล่งข่าวจากผู้บริหาร RABBIT ระบุว่า บริษัทได้เดินหน้าตามแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจการเงินอย่างต่อเนื่องต่อเนื่อง โดยรายได้จากธุรกิจบริการทางการในไตรมาส 3/66 เริ่มเห็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 10% ของรายได้รวม ประกอบกับยังมีการในส่วนของธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ดำเนินงานภายใต้ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไพร์มโซน จำกัด ได้มีการเริ่มดำเนินการทยอยซื้อสินทรัพย์เข้ามาบริหาร หลังเริ่มเปิดดำเนินการไปเมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน บริษัทจะมีรายได้เข้ามาเสริมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ จากโครงการ เดอะ ยูนิคอร์น พื้นที่เช่า 21,220 ตารางเมตร ที่ได้เปิดตัวในช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากผู้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน จากทำเลของโครงการอยู่ใจกลางเมืองเชื่อมต่อกับสถานีบีทีเอส พญาไท และได้เปิดให้บริการโรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ซึ่งได้รับอานิสงส์อย่างมากจากการท่องเที่ยวคึกคัก ทำให้มีอัตราการเข้าพักในช่วงเปิดสูงกว่า 66% และมีค่าห้องพักเฉลี่ยในระดับที่ดีที่ 4,500-5,000 บาท/คืน จะเข้ามาเป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/66 และไตรมาส 4/66
ส่วนแรงกดดันของผลการดำเนินงานส่วนหนึ่งที่มาจากผลขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนใน บมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER) คาดว่าจะลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากมองว่าธุรกิจของ SINGER ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปัจจัยกดดันดังกล่าวลดลงหลังจากไตรมาส 2/66 บันทึกรายการในส่วนนี้เข้ามาสูงราว 1.5 พันล้านบาท
สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายที่มีการร่วมทุนกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้น ปัจจุบันบริษัทยังมีโครงการร่วมทุนกับ บมจ.แสนสิริ (SIRI) ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่และอยู่ระหว่างการขาย 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ KHUN by Yoo และโครงการ THE LINE พหลโยธิน พาร์ค และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ THE LINE สาทร และโครงการ THE LINE VIBE ยังมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) เกือบ 1.7 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้เข้ามาต่อเนื่องในช่วงปี 66-69