ลับลวงพราง “ประธาน กสทช.” เลื่อนประชุมเลือกเลขาฯ เจตนาชิงรวบรัดเสียงโหวตหรือไม่?
พบพิรุธ “หมอสรณ” ส่งไลน์ขอเลื่อนประชุมบอร์ดเร็วขึ้น 2 วัน หวังชิงตัดตอนเสียงโหวตหรือไม่? วงในเผยวาระประชุมรอบวันที่ 6 ก.ย. เป็นการเลือก “เลขาฯกสทช.” หากเลื่อนเป็นวันที่ 4 ก.ย. กรรมการหลายคนเข้าร่วมไม่ได้ อาจเอื้อให้มีการรวบรัดลงคะแนนหนุนคนของประธานให้ผงาดขึ้นรั้งตำแหน่งได้โดยสะดวก แถมขอเปลี่ยนมาประชุมชั้น 2 ตึกอำนวยการ พบไม่มีอุปกรณ์บันทึกการประชุม ง่ายต่อการหมกเม็ดหรืออำพรางรายละเอียดสำคัญ
วันที่ 30 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งในกลุ่มไลน์ของประสานงานหน้าห้องคณะกรรมการ กสทช. โดยมีการระบุข้อความว่า เป็นการขอเลื่อนการประชุม โดยอ้างว่า นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ติดภารกิจในวันที่ 6 ก.ย. 2566 จึงมีการแจ้งเปลี่ยนการประชุมมาเป็นวันจันทร์ที่ 4 ก.ย. เวลา 09.30น. พร้อมขอให้เปลี่ยนห้องประชุมเป็นห้องบริเวณชั้น 2 อาคารอำนวยการ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระดับสูง กสทช. ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการประชุมดังกล่าวนั้น เป็นวาระเรื่องของการคัดเลือกผู้มาดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ กสทช. คนใหม่ โดยมีการคาดว่าจะเป็นการเสนอชื่อ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการและรักษาการเลขาธิการกสทช.
ทำให้ในเวลาต่อมาพบว่า คณะกรรมการ กสทช.4 คน ประกอบด้วย 1.รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย 2. รศ.สมภพ ภูรีวิกรัยพงศ์ 3.พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ 4.ศ. ดร.พิรงรอง รามสูต ได้ตอบกลับเป็นบันทึกข้อความด่วนที่สุดในทันที ส่งให้ ประธาน กสทช. และ เลขาธิการ กสทช.
โดยในบันทึกข้อความของ รศ.สมภพ กสทช. ระบุใจความว่า ตามที่ได้รับแจ้งในกลุ่มไลน์ส่วนประสานงานหน้ากสทช.เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2566 เมื่อเวลา 08.49น. เรื่องการเลื่อนประชุมนั้น เรื่องนี้ ตนเองติดภารกิจสำคัญในวันที่ 4 ก.ย. เพื่อเฝ้าถวายสักการะเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อีกทั้งยังมีภารกิจในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นการนัดหมายในล่วงหน้า ดังนั้นจึงไม่สะดวกในการเข้าประชุม และเห็นควรให้ประชุมตามเดิมในวันที่ 6 ก.ย. 2566 และขอให้ใช้ห้องประชุม 1121 ชั้น 12 อาคารอำนวยการ สำนักงาน กสทช. เพราะถือว่ามีความพร้อม และถือเป็นปฏิบัติการเช่นนั้นมาตลอด
เช่นเดียวกับบันทึกข้อความด่วนที่สุดของ ศ.พิรงรอง กสทช. ซึ่งทำขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. 2566 มีใจความว่า ไม่อาจเข้าร่วมประชุมได้ในวันที่ 4 ก.ย. 2566 เนื่องจากติดภารกิจอื่นล่วงหน้า พร้อมทั้งให้ความเห็นว่า “หากในวันประชุมตามระเบียบของ กสทช. พ.ศ.2555 กำหนดไว้ในการประชุมถ้าประธานไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกรองประธานคนใดคนหนึ่งมาทำหน้าที่แทน ถ้าไม่มีรองประธานหรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม” ซึ่งเรื่องนี้เคยมีการปฏิบัติมาแล้ว นอกจากนี้ยังเห็นว่า ควรใช้ห้องประชุมชั้น 12 เพราะในอดีตจนถึงปัจจุบันก็มีการใช้ห้องดังกล่าวประชุมมาโดยตลอด เนื่องจากมีความพร้อมของอุปกรณ์และระบบสารสนเทศในการประชุมในการบันทึกเทป และยังมีความปลอดภัยสูง
ขณะที่ รศ.ดร.ศุภัช กสทช. ได้ทำบันทึกเช่นกัน โดยมีใจความว่า ในวันดังกล่าวนั้นมีติดภารกิจเฝ้าถวายสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งได้มีการนัดหมายล่วงหน้าแล้ว จึงไม่สะดวกที่จะเข้าประชุม และเห็นว่าควรใช้ห้องประชุม 1121 ในการจัดประชุมเนื่องจากมีความพร้อมกว่า ซึ่งถือเป็นการถือปฏิบัติเช่นนั้นมาโดยตลอด
ด้าน พล.อ.ท.ธนพันธุ์ กสทช. ได้ทำบันทึกข้อความว่า ไม่สามารถที่จะเข้าประชุมได้ เนื่องจากวันที่ 4 ก.ย. 2566 นั้นติดภารกิจสำคัญที่ไม่อาจยกเลิกได้ และขอให้ประธาน กสทช. กำหนดการวันประชุมเป็นเวลาเดิม ขณะเดียวกันก็ขอให้มีการประชุมในห้องประชุมสายลม 1121 ซึ่งได้มีการแจ้งเหตุผลเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
เป็นที่น่าสังเกตว่าการประชุมการประชุมดังกล่าวจะมีบอร์ดไม่ว่างประชุม 4 คน และจะเหลือบอร์ด กสทช. เข้าประชุมเพียง 3 คน ประกอบด้วย นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานบอร์ดกสทช. นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการ กสทช. และ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการ กสทช. ซึ่งโดยปกติจะไม่สามารถประชุม หรือพิจารณาวาระการประชุมใดๆได้ เนื่องจากจำนวนผู้ประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่งที่อย่างน้อยต้องมีผู้เข้าร่วมประชุม 4 คนขึ้นไป
ล่าสุด ประธาน กสทช. ชี้แจงว่า แม้ว่าบอร์ดทั้ง 4 คน ไม่สะดวกประชุมก็ตาม แต่ก็ยังยืนยันว่าจะเปิดประชุมตามเดิมที่แจ้งเลื่อนประชุมคือวันที่ 4 ก.ย. 2566 เนื่องจากได้แจ้งวันประชุมและออกวาระการประชุมไปแล้ว ที่สำคัญในคืนวันเดียวกัน ตนเองต้องเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้เป็นสาเหตุที่ต้องเลื่อนประชุมจากวันที่ 6 ก.ย. 2566 เป็นวันที่ 4 ก.ย.2566 เพียงแต่ในวันประชุมวันที่ 4 ก.ย.นั้น จะเป็นการเปิดประชุมเพื่อกำหนดวันประชุมใหม่และปิดประชุมทันที เนื่องจากกรรมการมาประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถพิจารณาวาระต่างๆได้.