IMPACT ลงทุนปลายปีกว่า 500 ลบ.สร้างตึกค้าปลีก 5 ชั้นพร้อมสกายบริดจ์
IMPACT ลงทุนปลายปีกว่า 500 ลบ.สร้างตึกค้าปลีก 5 ชั้นพร้อมสกายบริดจ์
นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยถึงแผนการลงทุนช่วงปลายปี 58 เบื้องต้นได้วางงบลงทุนราว 500 ล้านบาท ดำเนินการสร้างสะพานทางเดินเชื่อมหรือสกายบริดจ์ (Sky Bridge) จากอาคารชาเลนเจอร์ 1 มายังลานด้านข้าง อิมแพ็ค อารีน่า
พร้อมสร้างอาคารค้าปลีก 5 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยราว 8,000 ตร.ม. เพื่อเป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร ฟู้ดคอร์ท เอาท์เล็ต แบรนด์ชั้นนำ และเป็นแหล่งพักผ่อนของลูกค้าที่มารอชมคอนเสิร์ตรวมถึงผู้ติดตาม โดยการลงทุนครั้งนี้เป็นผลมาจากความต้องการของลูกค้าผู้จัดงานหรือออแกไนท์เซอร์ที่ต้องการขยายพื้นที่จัดงานเพื่อรองรับการเติบโต
“แม้อิมแพ็คจะมีชาเลนเจอร์ ซึ่งเป็นอาคารที่ไม่มีเสากั้นกลางใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่ถึง 60,000 ตร.ม. และได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานระดับนานาชาติและงานแสดงสินค้าใหญ่ๆ ของไทยมาตลอด เมื่องานเหล่านั้นประสบความสำเร็จ มียอดผู้จัดแสดงงาน ยอดผู้ชมงาน (Exhibitors & Visitors) มูลค่าเจรจาธุรกิจและยอดขายเพิ่มขึ้น ลูกค้าก็อยากจะขยายงานให้ใหญ่ขึ้น ตัวอย่างเช่น มหกรรมสินค้าอาหาร หรือ ThaiFEX เพิ่มพื้นที่จัดงานเป็น 70,000 ตร.ม. งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือ Bangkok Gems เพิ่มพื้นที่จัดงานเป็น 80,000 ตร.ม.
โดยขยายพื้นที่จัดงานไปยังอาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ส่วนงานโอทอป ซิตี้ ขยายพื้นที่จัดงานมายังอาคารแสดงสินค้า 1-4 และล่าสุดผู้จัดมหกรรมยานยนต์ หรือ Motor Expo ได้ขยายพื้นที่จากชาเลนเจอร์ไปยัง อิมแพ็ค ฟอรั่ม เพื่อจัดงานเจรจาธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ หรือ AAITF เป็นต้น”
ด้วยเหตุนี้ อิมแพ็ค จึงมีแผนเชื่อมต่อทุกอาคารทุกห้องจัดงานเข้าด้วยกัน โดยการสร้างทางเดินเชื่อมสกายบริดจ์ จากเดิมที่มีอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เมื่อการก่อสร้างสกายบริดจ์ระหว่างอาคารชาเลนเจอร์มายังลานด้านข้าง อิมแพ็ค อารีน่าและอาคารค้าปลีกแล้วเสร็จก็จะทำให้การเชื่อมต่อทุกอาคารของอิมแพ็คสมบูรณ์ครอบคลุมพื้นที่จัดงานในร่ม 140,000 ตร.ม. และกลางแจ้งอีกกว่า 130,000 ตร.ม. สามารถรองรับการจัดงานขนาดใหญ่และการขยายงานของลูกค้าได้อย่างหลากหลายทั้งพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ให้กับลูกค้าผู้ชมงาน อีกทั้งการขยายการลงทุนครั้งนี้ยังจะเป็นประโยชน์สามารถรองรับการแข่งขันของธุรกิจเอ็กซิบิชั่นในไทย กระตุ้นให้เกิดการใช้พื้นที่ศูนย์ฯ เพิ่มจากปัจจุบันที่อยู่ในอัตราเฉลี่ยราว 60% ด้วย
ด้านนายเล็ก เติมตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ กล่าวว่า การสร้างทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารชาเลนเจอร์มายังลานด้านข้างอารีน่า ขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว โดยแบ่งการดำเนินงานเป็นช่วง เพื่อไม่ให้กระทบกับการจราจรในพื้นที่เมื่อมีงานแสดงสินค้าสำคัญๆ เมื่อฐานรากเสร็จจากนั้นจะใช้โครงเหล็กสะพานเชื่อม ซึ่งประกอบสำเร็จรูปเข้าไปประกอบ
ทั้งนี้ การก่อสร้างช่วงแรกจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการช่วงงานมอเตอร์ โชว์ เดือนมีนาคม 2559 ประกอบด้วย พื้น หลังคาคลุม ราวกันตก ไฟฟ้าส่องสว่างชั่วคราวภายในสะพานเชื่อม โดยจะยังไม่มีผนังกระจก และงานตกแต่งภายใน รวมถึงระบบปรับอากาศ ซึ่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์เพื่อให้บริการเต็มรูปแบบช่วงงานมหกรรมสินค้าอาหาร หรือ ThaiFEX ในเดือนพฤษภาคม 59 ส่วนการดำเนินงานสร้างอาคารค้าปลีก 5 ชั้นนั้นจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการปลายปี 59