CBG ดีด 2% โบรกอัพคำแนะ “ซื้อ” ชูเป้า 95 บาท ยอดขายเครื่องดื่มฟื้น-จ่อเปิดธุรกิจเบียร์
CBG ดีด 2% บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 66 อยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง คาดปี 66 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.28 หมื่นล้านบาท ส่วนบล.ทิสโก้ เปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ซื้อ” อัพราคาเป้าหมายใหม่ 95 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ก.ย. 66) ราคาหุ้น บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ล่าสุด ณ เวลา 11:18 น. อยู่ที่ระดับ 87.50 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 2.04% สูงสุดที่ระดับ 89.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 86.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 622.44 ล้านบาท
บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ระบุว่า ทางบริษัท CBG ตั้งเป้ารายได้ปี 66 อยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน และคาดแนวโน้มธุรกิจในครึ่งหลังปี 66 จะเติบโตต่อเนื่อง ด้วยแรงหนุนจากการเตรียมเปิดจำหน่ายเบียร์ของกลุ่มคาราบาวกรุ๊ป ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 3.12 พันล้านบาท และปี 66 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.28 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ บล.ทิสโก้ ระบุว่า จากกรณีผู้บริหารตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา จากเดิมที่คาดจะเติบโต 2 หลัก เนื่องจากผลกระทบยอดขายส่งออกที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามคาด จากเศรษฐกิจที่ซบเซาในกลุ่ม CLMV แต่แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นจาก 1) ในประเทศยังเน้นสินค้าเครื่องดื่มราคา 10 บาทคงเดิม เทียบกับคู่แข่งที่เริ่มปรับเป็น 12 บาท และมีการท าการตลาดโปรโมชั่นร่วมกับช่องไทยรัฐทีวีแจกรถแจกล้านถึงสิ้นปี บริษัทคาดหวังส่วนแบ่งการตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% จากปีที่ผ่านมา 21%
2) การส่งออกโดยเฉพาะประเทศกัมพูชาฟื้นตัวเป็นหลัก และการตั้งโรงงานในเมียนมาร์ร่วมกับ local distributor บริษัทถือหุ้น 70% คาดจะเริ่มผลิตได้ในปีหน้า 3) ธุรกิจรับจ้างจาหน่ายคาดกลุ่มเบียร์จะเริ่มวางจาหน่ายได้ช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.23 บริษัทตั้งเป้าหมาย 30 ล้านขวด/เดือน จะช่วยอัตราทากาไรได้ 1-2 บาท/ขวด หรืออัตรามาร์จิ้น 3-6% และเพิ่มอัตราทาก าไรในส่วนรับจ้างผลิตขวดแก้วอีก 1-2 บาท/ขวด
ทั้งนี้ คาดผลประกอบการ CBG จะกลับมาเติบโตจากสถานการณ์ต่างๆเริ่มปรับดีขึ้นทั้งในประเทศและส่งออกและต้นทุนวัตถุดิบและแพคเกจจิ้งเริ่มปรับลดลง รวมถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจเบียร์ที่มีตลาดใหญ่ เปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จาก “ถือ” ราคาเป้าหมายใหม่จากการปรับประมาณการอยู่ที่ 95 บาท จากเดิม 78 บาท