PROUD บวก 4% นิวไฮรอบ 1 ปี ลุ้นครึ่งหลังโตต่อ ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ 2.5 พันล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้(8 ก.ย.66) ราคาหุ้นบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD ณ เวลา 10:26 น. อยู่ที่ระดับ 2.28 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.64% ราคาสูงสุด 2.36 บาท ราคาต่ำสุด 2.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 20.97 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 1 ปี โดยเทียบราคาหุ้นยืนที่ระดับ 2.30 บาท เมื่อวันที่ 22 ก.ย.65

โดยก่อนหน้านี้นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PROUD เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 บริษัทพลิกมีกำไรสุทธิ 146.66 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 58.21 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 984% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 110  ล้านบาท

ทั้งนี้รายได้และกำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นผลมาจากการขายและทยอยส่งมอบโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน และบริษัทเร่งโอนกรรมสิทธิ์เตรียมปิดการขาย (Sold Out) โครงการดังกล่าวด้วย ซึ่งปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 229 ล้านบาท คาดว่าจะโอนเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3/2566

ขณะที่บริษัทเดินหน้าจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายโครงการคอนโดมิเนียม เวหา หัวหิน (VEHHA) มูลค่าโครงการ 2,290 ล้านบาท และโครงการ รมย์ คอนแวนต์ (ROMM Convent) มูลค่าโครงการรวม 4,150 ล้านบาท โดยภาพรวมยอดขายของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ และคาดว่ายอดขายทั้งปี 2566 จะเป็นไปตามเป้าหมาย 1,705 ล้านบาท

สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 มีทิศทางที่ดี บริษัทมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานการสร้างรายได้ให้กว้างขึ้น วางแผนซื้อที่ดินแปลงใหม่เพิ่มต่อเนื่อง รวมถึงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม โดยบริษัทวางงบลงทุนสำหรับซื้อที่ดินในปีนี้ไว้ที่ 1,000-1,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ การเข้าซื้อ 2 โครงการจากบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ NOBLE และบริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด ได้แก่ โครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 (NUE District R9 ) มูลค่าโครงการ 6,519 ล้านบาท และโครงการ นิว ครอส คูคต สเตชัน (NUE Cross Khu Khot) มูลค่าโครงการ 2,104 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายแล้ว 100% คาดว่าเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ในต้นปี 2567 เป็นต้นไป

นายภูมิพัฒน์ กล่าวอีกว่า จากการซื้อ 2 โครงการดังกล่าวจาก NOBLE เข้ามา ทำให้ปัจจุบันบริษัทมี Backlog จำนวน 9,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2569 โดยจะรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ประมาณ 200 ล้านบาท และยังมีสินค้าพร้อมโอนในมืออีก 300 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจรายได้ปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,500 ล้านบาท ส่วนยอดขาย (Presale) ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายไว้ที่ 3,300 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดมียอดขายแล้ว 2,100 ล้านบาท