TRUE ปิดบวก 4% โบรกอัพ “ซื้อ” ชูเป้า 8 บ. ลุ้น “อีบิทด้า” ไตรมาส 3-4 โตแกร่ง
TRUE ปิดบวก 4% โบรกชี้อีบิทด้าเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 3-4/66 เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และคาดกำไรพลิกเป็นบวกในปี 68-69 เนื่องจาก opex synergies โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ก.ย.66) ราคาหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ปิดตลาดที่ระดับ 7.05 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 3.68% สูงสุดที่ระดับ 7.05 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.85 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 498.51 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติ (normalised EBITDA) เติบโต 8-10% จากไตรมาสก่อนหน้า และคาดว่า EBITDA จะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 3-4/66 เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ จากต้นทุนด้านการตลาดและพนักงาน ทำให้คาดการณ์ผลขาดทุนหลักในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1-2 พันล้านบาท ลดลงจาก 2.4 พันล้านบาทในไตรมาส 2/66
สำหรับการแข่งขันในธุรกิจมือถือผ่อนคลายลงอีกในเดือนสิงหาคม ส่งผลดีต่อรายได้ในครึ่งหลังของปี 2566 เนื่องจากผู้ให้บริการได้ลดโควตาการใช้งานอินเตอร์เน็ตในแพคเกจแบบเติมเงินที่จำกัดความเร็วที่ 4mbps จาก 30GB เหลือ 15GB
ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” พร้อมปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 8.00 บาท จากเดิม 7.85 บาท เนื่องจาก roll over ราคาเป้าหมายไปเป็นสิ้นปี 67 ปัจจัยบวกที่จะหนุนราคาหุ้นได้แก่เป้าหมาย การประกาศเป้าหมายการสร้างมูลค่าซินเนอร์ยี่ (น่าจะเกิดขึ้นใน 1-2 เดือนข้างหน้า)
โดยประเมินว่าการประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานหลังการรวมกิจการจากการรวมเครือข่ายจะเริ่มเป็นรูปธรรมในครึ่งหลังปี 67 ทำให้ TRUE สามารถทำกำไรหลักปี 68 อยู่ที่ 388 ล้านบาท และในปี 69 ทำกำไรหลักอยู่ที่ 6.1 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นการพลิกกลับมามีกำไร (turnaround) จากผลขาดทุนหลักในช่วงปี 66-67 จึงคาดการณ์ผลกระทบเชิงบวกสุทธิจาก opex synergies ต่อกำไรจะเพิ่มขึ้นจาก 400 ล้านบาทในปี 66-67 เป็น 1.6 พันล้านบาท และในปี 68 จะเพิ่มขึ้นเป็น 5-6 พันล้านบาท ต่อปีตั้งแต่ปี 69 เป็นต้นไป ซึ่งการรวมแบรนด์จะสามารถทำได้ในช่วงต้นปี 69