จับตา “เศรษฐา” นั่งหัวโต๊ะประชุมครม. เคาะลดค่าไฟ-เดินหน้าโครงการเงินดิจิทัล

"เศรษฐา" นำทีมถกครม.นัดแรก จับตาพิจารณาวาระแจกเงินดิจิทัล ลดราคาพลังงาน พักหนี้เกษตรกร


วันที่ 13 ก.ย. 66  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ซึ่งในการประชุมวันนี้ต้องจับตามาตรการลดค่าครองชีพ ที่รัฐบาลใหม่จะออกมาเพื่อดูแลประชาชน อาทิ การลดค่าไฟฟ้า ลดราคาน้ำมัน การฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน การพิจารณาเรื่องมาตรการพักหนี้เกษตรกรทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึงจะมีการหารือเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย

โดย นายเศรษฐ สวมเสื้อผ้าไทยสีน้ำเงินด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และได้กล่าวสวัสดีทักทายสื่อมวลชน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าง่วงหรือไม่ หลังเมื่อวันที่ 12 ก.ย. แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาจนดึก นายเศรษฐา กล่าวว่า ง่วงนิดหน่อย เมื่อคืนดึก นอนไปได้ 4 ชั่วโมง จากนั้นนายกฯได้เดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 โดยมีน.สพ.ชัย วัชรงค์ ว่าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มารอต้อนรับ

สำหรับวาระสำคัญในด้านเศรษฐกิจที่จะเข้าสู่การประชุม ครม.ประกอบด้วย

1.กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะเริ่มต้นเดือน ก.พ.2567 ซึ่งกระทรวงการคลังนำเข้า ครม.เพื่อขอความเห็นชอบในหลักการเพื่อให้เดินหน้าโครงการได้ทันที จากนั้นเสนอรายละเอียดต่อ ครม.พิจารณาอีกครั้ง

2.การลดราคาพลังงานน้ำมันและไฟฟ้า โดยกระทรวงพลังงานจะเสนอลดราคาน้ำมันดีเซล โดยสูงสุดอาจลดลงลิตรละ 2 บาท เพื่อให้ราคาน้ำมันดีเซลลดลงเหลือลิตรละ 30 บาท โดยจะใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเข้ามาดูแล

3.มาตรการการพักหนี้เกษตรกร รวมทั้งผู้ที่ประสบภัยจากโควิด-19 โดยจะพักหนี้สินเกษตรกรทั้งต้นและดอกเบี้ย 3 ปี และรัฐบาลจะตั้งงบประมาณชดเชยดอกเบี้ยให้สถาบันการเงินวงเงินที่ใช้ในการชดเชยดอกเบี้ยไม่เกิน 4.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะให้เกษตรกรและประชาชนที่เดือดร้อนไปขึ้นทะเบียนการพักหนี้

4.มาตรการเตรียมพร้อมรับมือเอลนีโญ โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้เตรียมแผนรองรับภาวะเอลนีโญ และแผนการรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นนาน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ ครม.ด้วย

5.มาตรการวีซ่าฟรี (นักท่องเที่ยวไม่ต้องขอวีซ่า) เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น โดยจะให้นักท่องเที่ยวจีนไม่ต้องขอวีซ่าเพื่ออำนวยความสะดวกให้เข้ามาท่องเที่ยวไทยมากขึ้น โดยจะเริ่มต้นได้เร็วที่สุดภายในเดือน ก.ย.2566 และสิ้นสุดเดือน ก.พ.2567

นอกจากนี้ จะมีการเสนอ ครม.พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงและข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่ง เช่น กระทรวงการคลัง เสนอตั้ง นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เป็นปลัดกระทรวงการคลัง แทนนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ลาออกจากปลัดกระทรวงการคลังก่อนเกษียณอายุราชการเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

Back to top button