ATP30 บวกแรง 4% ส่งซิกครึ่งปีหลังสดใส ลั่นรายได้โต 10%
ATP30 บวกแรง 4% ส่งซิกครึ่งปีหลังสดใส ลั่นรายได้โต 10% ล่าสุดคว้าสัญญาลูกค้าใหม่ 5 ราย หนุนยอดรถบริการพุ่ง 670 คัน ทยอยให้บริการ-รับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน ต.ค. นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(13 ก.ย.66) ราคาบริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ณ เวลา 16:15 น. อยู่ที่ระดับ 1.19 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 4.39% ราคาสูงสุด 1.12 บาท ราคาต่ำสุด 1.12 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 8.43 ล้านบาท
โดยนายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ ATP30 เปิดเผยว่า ส่วนทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังของปี 2566 เติบโตต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดเตรียมรถบัสและรถตู้จำนวนกว่า 30 คัน เพื่อให้บริการลูกค้าไตรมาส 3/2566 และต่อเนื่องไตรมาส 4/2566
ขณะที่บริการรถมินิบัสไฟฟ้าจำนวน 5 คัน มีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ติดต่อเข้ามาขอเยี่ยมชมและศึกษาโมเดลการเดินรถจำนวนมาก ซึ่งบริษัททำการประเมินฐานลูกค้าที่สนใจใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 10% ของจำนวนลูกค้านิคมอุตสาหกรรม โดยบริษัทตั้งเป้าให้บริการรถไฟฟ้าในปีนี้จำนวน 10 คัน
นอกจากนี้ จากการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว บริษัทได้เริ่มนำรถบัส VIP จำนวน 2 คัน ให้บริการกับลูกค้า บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP รับ-ส่งนักท่องเที่ยวจากสนามบินสุราษฎร์ธานี ไปเกาะพะงัน โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนรถ 8-10 คัน เพื่อรองรับการขยายการให้บริการนักท่องเที่ยวในปีนี้
นายปิยะ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษา Business Model ใหม่ ๆ และเจรจากับพันธมิตรหลายราย ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท เพื่อต่อยอดธุรกิจให้มีศักยภาพมากขึ้น เช่น การพัฒนาประสิทธิภาพการเดินรถ ระบบการเดินรถไฟฟ้า เพื่อต่อยอดการเติบโตในอนาคต
“ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตในเกณฑ์ดี เนื่องจากราคาน้ำมันแนวโน้มลดลง ฐานลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่มีจำนวนรถให้บริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราการเติบโตปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงพัฒนาเทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการภายใน และระบบบริหารการเดินรถ เพื่อควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม” นายปิยะ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากมีลูกค้ารายใหญ่เซ็นสัญญาเข้ามาในช่วงไตรมาส 3/2566 บริษัทจะมีการลงทุนเพื่อปรับปรุงสภาพรถในการให้บริการ ส่งผลให้อาจมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกระทบต่อกำไรของบริษัทเล็กน้อย ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะสามารถขยายฐานรายได้ และกำไรในอนาคต โดยบริษัทเชื่อว่าปีนี้จะสามารถทำรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 10% พร้อมมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น
ล่าสุดบริษัทลงนามสัญญากับลูกค้าใหม่ 5 ราย ประกอบด้วย1. บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) รถบัส 6 คัน,2. บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (ประเทศไทย) จำกัด รถบัส 21 คัน และรถบัสไฟฟ้า 1 คัน,3. บริษัท จีซี-เอ็ม พีทีเอ จำกัด รถตู้ 9 คัน โดยทั้ง 3 บริษัทจะเริ่มให้บริการวันที่ 1 ตุลาคม 2566ม4. บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด รถบัส 2 คัน และรถตู้ 10 คัน เริ่มให้บริการวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 และ5. บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) รถตู้ 15 คัน เริ่มให้บริการวันที่ 1 มกราคม 2567 รวมเป็นจำนวนรถให้บริการทั้งสิ้น 64 คัน แบ่งเป็นการจัดหารถใหม่ 37 คัน และการปรับปรุงรถเพื่อมาให้บริการอีกจำนวน 27 คัน ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมจัดหารถ และพนักงานขับรถเพื่อให้บริการต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินงานของลูกค้าทั้ง 5 ราย ส่งผลให้ปี 2566 บริษัทจะมีลูกค้าเพิ่มเป็นจำนวน 66 ราย มีรถที่รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจำนวนทั้งสิ้น 670 คัน ตามกลยุทธ์คัดสรรลูกค้าศักยภาพสูง มีความผันผวนต่ำ เพิ่มความมั่นคงด้านรายได้และความแข็งแรงด้านพื้นฐานกิจการ
“บริษัทมีกลยุทธ์กระจายกลุ่มลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการรับรู้รายได้ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีความผันผวนกับภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งจำนวนรถที่ให้บริการเพิ่มขึ้นเป็นการกระจายการให้บริการสู่พื้นที่อุตสาหกรรมภาคกลางของประเทศ รวมถึงการนำรถที่หมดภาระทางการเงินมาให้บริการในบางส่วนตามแผนธุรกิจของบริษัทในปี 2566 ถือเป็นโอกาสการเติบโตที่ดีของบริษัทในการเพิ่มความมั่นคงทางด้านรายได้และความแข็งแรงทางด้านพื้นฐานกิจการ” นายปิยะ กล่าว